เคยสงสัย และ เกิดตั้งคำถามในตัวเองใช่ไหมว่า ทำไมทำบุญแล้วชีวิตไม่ดีขึ้นเลย
ไปดูกันค่ะว่าเ พ ร า ะอะไรหนึ่งในสถานการณ์ที่มักจะสร้างความคลางแคลงใจให้แก่คนที่เพิ่งจะหันมาศึกษาธรรมะรวมไปถึง
ผู้ที่ศึกษาธรรมะมานานแต่ยังไม่มีความหนักแน่นมากพอที่จะเชื่อมั่นในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าก็คือ ทำไมทำบุญแต่ชีวิต
ไม่ดีขึ้นเลยชาวพุทธจำนวนมากทำกิจก ร ร มทางศาสนาหลายอย่ างแล้วคิดว่า การกระทำดังกล่าวได้บุญแต่ความจริงแล้ว
บางอย่ างก็ได้บุญน้อยมากบางอย่ างไม่ได้บุญเลยเหตุการณ์ดังกล่าวมักจะทำให้ความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาของบาง
คนสั่นคลอนแล้วกลายเป็นคนหลงผิด ผมจึงขอรวบรวมเหตุผลส่วนหนึ่งมาอธิบายว่า เ พ ร า ะเหตุใดการทำบุญจึงไม่ทำ
ให้ชีวิตดีขึ้นดังนี้
1 : ทำบ า ปเอาไว้มาก
แต่ยังทำบุญน้อยลองคำนวณดูคร่าว ๆ ว่าเราเริ่มศึกษาธรรมะตอนอายุเท่าไรแล้วลองเปรียบเทียบดูว่าจำนวนปีที่เราทำบ า ป
กับจำนวนปีที่เราทำบุญแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนยกตัวอย่ างเช่นสมมุติว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ศึกษาธรรมะอย่ างจริงจังในช่วง
อายุ 30 กว่า ๆต่อมาได้หยุดทำบ า ปแล้วหันมาทำบุญในช่วงไม่เกิน 5 ปีหลังก็แปลว่าก่อนหน้านั้นเราทำบ า ปมาประมาณ
30 ปีและเริ่มทำบุญจริงจังมาประมาณ 5 ปีจะเห็นได้ว่า ปริมาณการทำบ า ปในชาตินี้ยังมากกว่าการทำบุญ ฉะนั้น ก็คง
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชีวิตอาจจะยังไม่ดีขึ้นอย่ างเห็นได้ชัด
2 : บุญก็ทำ บ า ปก็ไม่เลิก
คนจำนวนไม่น้อยศึกษาธรรมะ แต่เข้าถึงหลักธรรมเพียงด้านเดียวคือการทำบุญ โดยไม่ได้สนใจเลิกทำบ า ป จึงทำบุญไป
ด้วย ทำบ า ปไปด้วยชีวิตโดยรวมก็จะมีสภาพลุ่ม ๆ ดอน ๆ เดี๋ยวชีวิตก็ดีเ พ ร า ะผลบุญที่ทำ เดี๋ยวชีวิตก็แย่เ พ ร า ะผล
ของบ า ปที่ไม่ได้ลดละลงเลย
3 : เข้าใจผิด คิดว่าทำบุญอยู่
ชาวพุทธจำนวนมากทำกิจก ร ร มทางศาสนาหลายอย่ างแล้วคิดว่าการกระทำดังกล่าวได้บุญแต่ความจริงแล้ว บางอย่ าง
ก็ได้บุญน้อยมาก บางอย่ างไม่ได้บุญเลย หนำซ้ำกิจก ร ร มบางอย่ างก็ได้บ า ปทำให้ไม่มีบุญมาส่งเสริมให้ชีวิตดีขึ้นเช่น
การเข้าวัดเฉย ๆ การกราบพระพุทธรูปเพื่อขอพรการสวดมนต์เพื่อให้ร่ำรวย การแก้ก ร ร มการรดน้ำมนต์ การไปร่วม
พิธีก ร ร มต่าง ๆเป็นต้น
4 : ทำบุญมาก แต่ได้บุญน้อย
หลายคนยังคงทำมาหากินในอาชีพที่ผิดศีล เงินที่หามาได้จึงเป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์ ซึ่งเงินก้อนนี้หากเอาไปทำบุญก็จะได้
บุญน้อยมาก จึงไม่มีผลบุญที่จะมาช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
5 : เข้าใจผิด
คิดว่าละบ า ปแล้วหลายคนมีความเข้าใจเรื่องการทำบ า ปไม่ครบถ้วน จึงคิดว่าการกระทำของตนไม่บ า ป และยังคงทำก ร ร ม
นั้นอย่ างต่อเนื่องไม่หยุดทำให้ยังคงได้บ า ปอย่ างต่อเนื่องไม่หยุดเช่นกันส่งผลให้มีบ า ปที่รอแสดงผลเป็นจำนวนมาก เช่น
การใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ยังไม่ได้สู่ขอ การพูดให้คนทะเลาะกัน การพูดจาเสียดแท งจิตใจเป็นต้น
6 : ทำบุญไม่ตรงกับผลที่ต้องการ
ชาวพุทธจำนวนมากมีความต้องการให้ชีวิตบางด้านดีขึ้น แต่เนื่องจากไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎแห่งก ร ร มที่ถูกต้อง จึง
ทำบุญไม่ตรงกับความต้องการ เช่น คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับความรักความจริงแล้วควรจะรักษาศีลอุโบสถ เลิกพูดโกหก พูด
ส่อเสียดพูดหย าบแต่ก็กลับไปทำสังฆทานที่จะช่วยเรื่องเงินทอง คนที่มีปัญหาเรื่องการทำงานความจริงแล้วควรทำบุญ
ถวายสังฆทานแต่กลับไปปล่อยปลาไถ่ชีวิตสัตว์ ซึ่งจะช่วยให้อายุยืนและสุขภาพดี คนป่วยที่ควรจะทำบุญด้วยย าหรือ
ปล่อยปลาที่กำลังจะถูกเอาชีวิต แต่กลับไปซื้อปลาที่เขาเตรียมจับไว้แทน ซึ่งบุญที่ได้จะช่วยเรื่องอิสรภาพมากกว่า
7 : บุญยังไม่แสดงผล
คนจำนวนหนึ่งมีความเข้าใจในกฎแห่งก ร ร มอย่ างถูกต้องและได้เริ่มต้นทำบุญละบ า ปมาต่อเนื่องย าวนานนับสิบๆ ปีแต่
ชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้น ที่เป็นอย่ างนั้นก็เ พ ร า ะบุญที่ทำยังไม่สบช่องแสดงผลเ พ ร า ะในชาติที่แล้ว และชาติก่อนหน้านั้น อาจ
จะเคยทำบ า ปเอาไว้มากบ า ปที่เคยทำจึงยังตามแสดงผลให้เราพบเจอความทุกข์ไม่หยุดชีวิตจึงยังไม่ดีขึ้นตัวอย่ างเหตุผล
ดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านทุกคนได้ลองหันกลับมาพิจารณาว่า ตัวเราเองเข้าใจเรื่องบ า ปบุญอย่ างถูกต้องแค่ไหนและ
แท้จริงแล้วตัวเราทำบุญหรือทำบ า ปมากกว่ากัน ถ้าเรามีความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็จะเห็นความจริงว่า เราทำดีมากพอหรือยัง
(ส่วนใหญ่มักจะยังทำบุญไม่มากพอ และยังทำ บ า ป ควบคู่ไปด้วย) ในขณะเดียวกัน ก็หวังว่าความเข้าใจดังกล่าวจะทำให้
ทุก ๆ คน ส า ม า ร ถ รักษาความมุ่งมั่นในการทำบุญละบ า ปต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เ พ ร า ะถึงอย่ างไรเส้นทางนี้ก็เป็น
เส้นทางที่ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนเอาไว้และเป็นเส้นทางที่จะช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้อย่ างไม่ต้องสงสัย