Home ข้อคิดดำเนินชีวิต บางช่วงเวลาที่เราเข้าใกล้ความเศร้าหากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้า

บางช่วงเวลาที่เราเข้าใกล้ความเศร้าหากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้า

0 second read
0
1,009

บางช่วงเวลาที่เราเขยิบเข้าใกล้ความเศร้าซึมหากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้บางคนผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปแล้ว

บางคนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้ ขออนุญาตส่งกำลังใจและฝากสำรวจตัวเองเพื่อผ่อนปรน และใจดีกับตัวเอง ในช่วง

เวลาที่เราอาจกดดันตัวเองมากเกินไป สิ่งที่เป็นตัวจุดชนวนความเศร้าซึม คือ ความรู้สึกแย่กับตัวเอง เมื่อเกิดความรู้สึกเช่นนี้

ขึ้น ต้องระวังมิให้ดำดิ่งลงไป หรือคิดวนอยู่กับมันเนิ่นนานนักอาจใช้วิธีการพาตัวเองออกจากความคิดวนเวียนในเรื่องใดเรื่อง

หนึ่งไม่ว่าเรื่องงาน ความรัก ครอบครัว หรือสังคมให้เวลาตัวเองได้ผ่อนคลายและวางเรื่องนั้นลงบ้าง อนุญาตให้ตัวเองได้นั่ง

เฉยๆ เดินเล่นสบายๆ ฟังเพลง อ่านหนังสือพบปะมิตรสหาย หรือทำกิจกรรมที่อย ากทำ กินขนมที่อย ากกิน แล้วค่อยกลับไป

ลุยกับสิ่งจริงจังนั้นต่อ เ พ ร า ะถ้าลุยตลอดเวลาเราอาจพังก่อนเวลาอันควร ความทุ่มเทอย่ างหนักมีข้อเสียของมันเช่นกัน

เมื่อใส่แรงลงไปเยอะ เรามักคาดหวังเยอะตามไปด้วยถ้าผลยังไม่เป็นดังหวัง บ่อยครั้งกลับเพิ่มแรงกดดันกลับมาที่ตัวเอง

ทำให้รู้สึกแย่ที่ยังไปไม่ถึงไหนเสียที นิสัย 5 สิ่งต่อไปนี้ที่ต้องตรวจสอบตัวเองว่า “เยอะไปไหม”

1 : ทำเพื่อคนอื่นมากเกินไป

เวลารู้สึกแย่กับตัวเอง เรามักพ ย า ย ามทำเต็มที่ที่สุด เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเราไม่ได้แย่ จึงเป็นช่วงเวลาที่ปฏิเสธไม่เป็นตอบรับ

และเอาใจคนอื่นไปทั่ว เพื่อให้เขารู้สึกดีกับเรา ซึ่งการเอาอกเอาใจทุกคนนั้น เสี่ยงต่อความเหนื่อยล้าอ่อนแอในใจตัวเองยิ่งถ้า

มี ใคร เอา เปรียบ จากความใจดีของเรา ก็ยิ่งทำให้เจ็บปวดมากขึ้นไปอีก ลองสังเกตตัวเองว่ากำลังพย าย ามเอาใจคนอื่นจน

มากเกิน เพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือเปล่า อาจต้องพูดคำว่า “ไม่” บ้าง แล้วเราจะค่อยๆ เข้าใจว่าเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจเรา

ไม่ได้คาดหวังว่า เราจะต้องพยักหน้าตลอดเวลาขนาดนั้น

2 : อาวรณ์กับอดีต

การหวนกลับไปคิดว่า “ตอนนั้นฉันน่าจะทำแบบนั้นแบบนี้” ทำให้เราวนเวียนอยู่กับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ ชีวิตเป็นส่วนผสมของสิ่งที่

ตัดสินใจได้ถูกกับตัดสินใจผิด ไม่มีใครตัดสินใจถูกตลอดเวลา เ พ ร า ะผิดจึงไม่ทำอีก ทุกคนมีเรื่องที่อย ากแก้ไขแต่แก้ไม่ได้

สิ่งสำคัญคือเราไม่ได้ทำผิดทั้งหมด ลองถามตัวเองดูว่า “อะไรบ้างในอดีตที่เราทำได้ดีแล้ว” จะพบว่ามีสิ่งที่ทำและเลือกได้ดี

จำนวนไม่น้อย รู้สึกดีกับอดีตมากขึ้น เก็บบทเรียน (โดยไม่ต้องโทษตัวเอง)เพื่อทำอนาคตให้ดี ยังมีพรุ่งนี้รออยู่ ทุกคนล้วนมี

โอกาสตกลงไปในพายุแห่งความรู้สึกแย่กับตัวเองด้วยกันทั้งนั้นช่วงเวลาที่อยู่ในพายุย่อมไม่ง่ายที่จะเดินออกมา กระนั้น

การมองเห็นองค์ประกอบที่ก่อพายุอารมณ์ขึ้นอาจทำให้เราพอจะจัดการกับมันได้บ้าง โดยเฉพาะคนที่พายุยังเพิ่งเริ่มก่อตัว

เราอาจผิดพลาด อาจยังทำได้ไม่ดีแต่นั่นเป็นธรรมดาของมนุษย์ ต้องลองตรวจสอบเป้าหมายที่ตั้งไว้กับตัวเองว่า ไม่คาดคั้น

กับตัวเองเกินไปใช่ไหมความรู้สึกผิดแต่ละครั้งหนักหน่วงเกินไปหรือเปล่า

3 : รู้สึกผิด

ทุกคนทำผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น แต่คนที่อยู่ในภาวะเศร้าซึมจะเคลื่อนออกจากความรู้สึกผิดได้ย ากกว่า หากเริ่มมองเห็นวังวน

ของการโทษตัวเองซ้ำๆ รู้สึกผิดวนเวียน ต้องระวัง.. เ พ ร า ะจะนำไปสู่การโทษตัวเองว่า “ สมควรแล้วที่เป็นแบบนี้ ” ความรู้สึก

เช่นนี้คือ “ความรู้สึกผิดที่ไม่มีประโยชน์” ลองแยกความผิดที่แก้ไขไม่ได้เ พ ร า ะผ่านไปแล้วออกไปให้ชัด ๆ ให้อภัยตัวเองแล้ว

ลงมือทำสิ่งใหม่ การให้อภัยตัวเองเป็นเรื่องที่ต้องฝึกให้ชำนาญ เ พ ร า ะชีวิตนี้เรายังทำผิดพลาดอีกหลายหน และตัวเราเองก็

คู่ควรต่อการให้อภัยไม่น้อยไปกว่า คนที่เราอภัยและใจดีต่อเขาบางคนให้อภัยทุกคนในโลก ยกเว้นตัวเอง ต้องฝึกใจดีกับ

ตัวเองมากขึ้น

4 : ระแวงว่าคนอื่นจะมองว่าเราแย่

เวลารู้สึกแย่กับตัวเอง บ่อยครั้งเราเผลอคิดว่า คนอื่นมองเราแย่เหมือนที่เรารู้สึก เช่น คิดว่าเราอ่อนแอ เราห่วย ต่าง ๆ นานา

ความรู้สึกเช่นนี้ อาจทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่ลง เ พ ร า ะ เราจะรู้สึกไม่ปลอดภัย สิ่งสำคัญคือ ต้องมองเห็นตัวเองว่ากำลัง

ตัดสินคนอื่นด้วยความรู้สึกของตัวเองอยู่หรือเปล่า อาจแก้ไขได้ ด้วยการหาเพื่อนที่ไว้ใจแล้วบอกเล่าความรู้สึกให้ฟังรวมถึง

ถามหาข้อดีหรือจุดแข็งของเรา เพื่อจะได้รู้ว่า เพื่อนไม่ได้รู้สึกกับเราในเชิงลบอย่ างที่เราคิด ตรงกันข้าม…เพื่อนยังมองเห็น

คุณสมบัติที่ดีหลายอย่ างในตัวเราด้วยซ้ำ นอกจากกระชับสัมพันธ์แล้วยังได้เพิ่มพลังให้ตัวเองด้วย

5 : ติดความสมบูรณ์แบบ

ความคาดหวังที่สูงและเป็นอุดมคติ ไม่ว่าจะเรื่องความรัก การงานความสำเร็จหรือสังคมก็แล้วแต่อาจก่อความเครียดขึ้นในใจ

เ พ ร า ะฝันสมบูรณ์แบบนั้น มักต้องเผชิญกับความผิดหวังหากตั้งเป้าสวยงามไว้ ก็อาจต้องเหลือพื้นที่ให้ตัวเองด้วยว่า ผู้คน

ความสัมพันธ์ การงาน ความฝันอาจไม่ได้เป็นอย่ างที่เราคิด 100% สิ่งที่ช่วยได้คือ การมีทัศนะที่ดีต่อความล้มเหลวมองเห็น

บทเรียนที่ได้รับจากเวลาผิดหวัง และมองเห็นภาพกว้างว่า ชีวิตยังมีอย่ างอื่นอีก นอกจากความฝันอันสมบูรณ์แบบของเรา

Load More Related Articles
Load More By Life
Load More In ข้อคิดดำเนินชีวิต
Comments are closed.

Check Also

ผู้ประเสริฐ ผู้ยอดเยี่ยม นี่แหละคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับลูกๆ

ชาย ผ้ า ถุ ง ของแม่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้ไม่ต้องปลุ … …