Home ข้อคิดดำเนินชีวิต ปล่อยวางความเครียดแล้วลอง 8 วิธีนี้รับรองว่าสมองมีประสิทธิภาพแน่นอน

ปล่อยวางความเครียดแล้วลอง 8 วิธีนี้รับรองว่าสมองมีประสิทธิภาพแน่นอน

0 second read
0
1,146

8 วิธีแก้สมองตื้อ คิดไม่ออกอย่ านั่งแช่ จะแย่กว่าเดิม!

เวลางานไปไม่ถึงไหน หัวตื้อ คิดอะไรไม่ออก เวลาที่อย ากจะหยิบงานออกมาฉีก อย ากจะทุบคอมพิวเตอร์ทิ้งไป

เวลาแบบนี้คนส่วนใหญ่มักจะนั่งกุมหัว ก้มหน้าก้มตา คิดแต่วิธีหาทางออก แต่สุดท้ายกลับคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี

เ พ ร า ะสมองตื้อไปหมดแล้ว

อันที่จริงแล้วเวลาแบบนี้คุณควรจะลุกออกมาจากตรงนั้น หากยังทู่ซี้นั่งต่อไป นั่งมึน นั่งแช่อยู่กับโต๊ะต่อ งานก็

ไม่เสร็จ แถมยังรู้สึกอ่อนล้าอ่อนเพลีย เ พ ร า ะสภาพร่างกายเตือนว่า ฉันกำลังสมองล้า ไปต่อไม่ไหวแล้ว

พักก่อนดีกว่า

แต่พอจะพักก็ไม่กล้าพัก ยังกังวลกับงาน พักได้ครึ่งๆ กลางๆ สุดท้ายงานก็ไม่เดิน ร่างกายก็ย่ำแย่ดังนั้นสิ่งแรก

ที่ควรทำเมื่อเกิดอาการสมองล้าคือ การทำใจกล้าปล่อยวางความเครียด แล้วลอง 8 วิธีแก้สมองตื้อต่อไปนี้

รับรองว่าเยียวย าสมองอ่อนล้าได้อย่ างมีประสิทธิภาพเลยล่ะ

นวด

หากประสาทซิมพาเทติกตื่นตัวจะแข็งไปทั้งร่าง หลอดแดงส่วนปลายหดตัว ตัวเย็น ไหลเวียนไม่สะดวก ส่ง

ออกซิเจนกับสารอาหารสู่เนื้อเยื่อไม่ราบรื่น สิ่งสกปรกไม่ถูกส่งสู่ตับ เกิดความอ่อนล้าสะสม โดยเฉพาะคน

ทำงานใช้สมองที่ต้องนั่งอยู่กับโต๊ะนานๆ หลัง คอ ไหล่ จะถูกกดทับ ใช้งานหนัก จนแข็งขึ้นเกิดเป็นอาการ

คัดตึง เวียนหัว ปวดหัวจากความเครียด

ดังนั้น ควรคลายด้วยการนวด เ พ ร า ะการกดนวดเบา ๆ จะช่วยคลายกล้ามเนื้อแข็งตึง แม้จะรู้สึกเจ็บนิดหน่อย

แต่ปลอดโปร่งช่วยผ่อนคลายให้ลมน้ำเหลืองไหลเวียนได้สะดวกการนวดคือวิธีบำบัดที่กระตุ้นประสาทสัมผัส

ได้ดี ควรนวดในห้องเงียบสงบ บนเตียงสบาย ปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ ใช้กลิ่นอโรมา ไม่ต้องคิดอะไรให้ใจ

เป็นอิสระจากความคิด แค่นี้ก็จะช่วยให้สมองโล่ง พร้อมลุยงานต่อแล้ว

ทำสมาธิ

ทำสมาธิเพื่อผ่อนคลายสมองไม่ต้องทำนานก็ได้ โดยเริ่มจากนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้ในท่าที่สบายไม่เกร็งเอวหลับตา

ครึ่งเดียว พย าย ามหายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ ส่งไปยังท้องน้อย อ้าปากเล็กน้อยเริ่มที่หายใจออกก่อนค่อยๆผ่อน

ลมออกจนท้องน้อยแฟบ เมื่อผ่อนลมหมด สูดหายใจเข้าทางจมูก ตั้งสมาธิไปยังลมหายใจ คุณจะรู้สึกได้ถึง

ความผ่อนคลาย เทียบกันแล้วลมหายใจเข้าจะย าวกว่าลมหายใจออก แต่ไม่ต้องไปซีเรียส เอาที่สบายใจ

ตัวเองก็พอ

สำหรับมือใหม่ อาจหายใจลงท้องน้อยไม่เปน แต่เมื่อทำไปสักพักจะคุ้นเองและเก่งไปเอง เป็นโชคดีของคนเรา

ที่ใช้ลมหายใจเข้าออกช่วยคลายประสาทซิมพาเทติก ความตึงเครียดและความกังวลได้การหายใจลงท้องน้อย

ยังช่วยบริหารกะบังลมและช่องท้องขยับขึ้นลง เกิดการทำงานของอวัยวะภายในเป็นอย่ างดี

บางคนคิดฟุ้งซ่านจนนั่งสมาธิไม่เป็น เ พ ร า ะคนเราหยุดคิดไม่ได้ ความคิดเราผุดขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเป็นเรื่อง

ธรรมดา ปล่อยให้มันผุดขึ้นมาอย่ างนั้นแหละ ปล่อยให้ไหลไป เช่นเรา ยืนอยู่ริมแม่น้ำแล้วเห็นน้ำไหลผ่านไม่

ต้องพย าย ามหยุดคิด ไม่พย าย ามคิดเรื่องใดเป็นพิเศษปล่อยให้ความคิดเกิดขึ้นโดยนิ่งเฉยกับมันเราจะเริ่ม

รู้สึกว่ามันเป็นเหมือนเรื่องของคนอื่น ไกลตัวไกลใจ ไม่ดี ไม่รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ เหมือนเป็นเรื่องคนอื่นเราจะ

ไม่คิดถึงอดีต ไม่คิดถึงอนาคต มีเพียงสมาธิที่เพ่งอยู่กับปัจจุบัน นี่คือจุดยืนของการทำสมาธิ ต้องเพ่งเล็งอยู่

กับปัจจุบัน ขณะนี้ ตรงนี้ เมื่อเข้าใจความหมายของคำว่าอิสระจากความคิด ใจคุณก็จะสงบ ผลลัพธ์ดีๆ

ก็จะเกิดขึ้นบริหารสมอง ผ่อนคลาย ทำงานให้มีควาสุข วิธีแก้สมองตื้อ

เดินเล่นเรื่อยเปื่อย

เวลาคิดไม่ออก คนส่วนใหญ่นั่งอยู่กับที่ แต่คนอีกส่วนจะลุกเดินไปเดินมาโดยไม่รู้ตัว เ พ ร า ะการเดินเล่นเรื่อย

เปื่อยจะช่วยให้เราคิดอะไรออกได้ เดินในสวนก็ได้ เดินในซอยที่คนไม่พลุกพล่านก็ได้ เมื่อไรที่รู้สึกว่าความคิด

ในหัวยุ่งเหยิง ลองเดินเล่นเรื่อยเปื่อย เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยหรือไม่คิดอะไรเลยก็ได้ เหม่อมองชมวิวทิวทัศน์

รอบตัวกับผู้คนผ่านไปมา ไม่จำเป็นต้องกำหนดจุดหมายปลายทาง แค่เดินไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ก็พอ

เมื่อทำแล้ว สมองจะค่อยๆ เย็นลง หากนั่งอยู่เฉยๆ ในหัวเราก็จะยิ่งเต็มไปด้วยความคิดด้านลบ เ พ ร า ะสมอง

ที่ร้อนจะส่งผลให้การเชื่อมโยงของสมองผิดปกติ จนถ่ายทอดข้อมูลไม่สมบูรณ์ ความสามารถในการส่งต่อ

ข่าวสาร และ พลังสมาธิจะต่ำลง เวลาแบบนี้การเดินเล่นเรื่อยเปื่อยจึงดีที่สุด เ พ ร า ะ เมื่อสมองเราเกิด

ความสั่นไหวเบาๆ หัวจะปลอดโปร่งและปรับสมดุลดีขึ้นอย่ าเดินจนเหนื่อย หากเดินเยอะจนหงุดหงิด

ฮอร์โมนอะดรีนาลีนแห่งความตื่นเต้นจะหลั่งออกมา กลายเป็นว่าเราไม่ได้พักผ่อนเลย

ยืดเส้นยืดสาย

เวลานั่งทำงาน หัวของเราจะโน้มมาทางด้านหน้า ซึ่งหัวของเรามีน้ำหนัก 5 กิโลกรัม ยิ่งเราโน้มมาข้างหน้า

เท่าไร กล้ามเนื้อต้นคอก็ต้องแบกรับ ต้องเกร็งรับน้ำหนักอย่ างมาก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อตรงท้ายทอย

ค้นคอ ไหล่ หลังช่วงบน

โดยในทางกายภาพ หากน้ำหนักของส่วนหัวมีมาก ความกดดันสู่สมองยิ่งเยอะ ทำให้เราบิดขี้เกียจหรือหาว

ออกมาเอง เป็นปฏิกิริย าทางร่างกายที่เป็นหลักฐานว่า กล้ามเนื้อกำลังตึงมากนะ

กล้ามเนื้อส่วนนี้ของคนเหล่ามนุษย์เงินเดือนจึงตึงมากๆ ยิ่งตอนจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์คอยิ่งยื่นย าว

ไปข้างหน้า โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเล่นมือถือก้มลงจ้องแต่จอ

ดังนั้น เราต้องผ่อนคลาย ความแข็ง ตึง กล้ามเนื้อส่วนนี้เสียก่อน ถึงจะหายปวดล้าต้นคอ และสมองก็จะปลอด

โปร่งขึ้นให้ลองใช้วิธีเงยหน้าเอนหัวไปด้านหลังค้างไว้สักพักจะรู้สึกหัวโล่งขึ้นใช้มือนวดกล้ามเนื้อต้นคอบ้าง

การยืดเส้นยืดสายนั้น ถ้าทำร่วมกับกายหายใจเข้าออกถี่ๆ ยิ่งได้ผลดี ท่ายังคุดคู้ทำให้ปอดขย ายได้ไม่เกิน

ร้อยละ 60 จึงไม่มีออกซิเจนมาใช้งานเพียงพอ หรือจะเรียนโยคะแล้วนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ก็สามารถ

ช่วยบำบัดสมองล้าได้เช่นกัน

แช่น้ำอุ่น

การแช่น้ำคือสุดยอดแห่งการผ่อนคลาย คลายความตื่นตัว ความตึงเครียดและอ่อนล้าของประสาทซิมพาเทติก

อย่ างไรก็ตามน้ำที่ร้อนเกินจะมีผลให้ยิ่งกระตุ้นประสาทซิมพาเทติก จึงควรใช้น้ำอุ่น อุณหภูมิสัก 40 องศาเซล

เซียส และต้องแช่ไม่เกิน 10 นาที หากอยู่นานไปจะอ่อนแรงจนย ากที่จะกลับไปทำงานต่อ

การแช่น้ำอุ่น 40 องศาเซลเซียสนาน 10 นาทีจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยเพิ่ม

ภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นถึงได้ เมื่อเทียบกับตอนอุณหภูมิในร่างกายลดลง

ประสาทซิมพาเทติกที่ตื่นตัวมากไปส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่ างเห็นได้ชัด การแช่น้ำจึงสำคัญมากไม่เพียง

เพื่อคลายเหนื่อยแต่ยังช่วยให้ประสาทซิมพาเทติกทำงานได้ดีเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่เคยอ่อนแอให้แข็งแรง

ส่วนการอาบน้ำฝักบัวจะทำให้เราสดชื่น แต่ก็กระตุ้นประสาทซิมพาเทติมากกว่าประสาทพาราซิมพาเทติก

เ พ ร า ะแรงดันน้ำจากฝักบัวจะทำให้เราตื่นตัวในขณะที่แช่น้ำควรเปิดเพลงเบาๆใช้กลิ่นอโรมาแล้วพิงหัว

กับขอบอ่าง นอนเหยียด แผ่ตัวให้เต็มที่ จนรู้สึกถึงความผ่อนคลายบริหารสมอง ผ่อนคลาย ทำงานให้

มีควาสุข วิธีแก้สมองตื้อ

นอนกลางวัน

ไม่มีย าคลายล้าใดๆ ออกฤทธิ์ได้ดีไปกว่าการงีบสัก 15 นาทีหลังมื้อเที่ยง ถ้าสถานที่สะดวกให้นอนลงกับพื้น

จะดีที่สุด สำหรับใครที่นอนไม่หลับ แค่นอนเล่นสักพักก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนสมองที่ดีแล้ว

ไม่ว่าจะนอนเล่นเงียบๆ ตั้งสมาธิไปด้วย หรือจะนั่งฟุบกับโต๊ะก็ได้ เมื่อตื่นขึ้นจะรู้สึกสดชื่นเหมือนตื่นตอนเช้า

อีกครั้ง มีพลังเต็มร้อย พร้อมลุยงานช่วงบ่าย การนอนกลางวันทำให้เราเหมือนได้เริ่มต้นวันใหม่อีกครั้งจะทำ

ให้เราทำงานได้ราบลื่นเหมือนตอนเช้าๆ เลย

นอกจากนี้การนอนกลางวันมีผลบำบัดโรคนอนไม่หลับอาจต้องเว้นกรณีที่คนนอนไม่หลับเ พ ร า ะนอนกลางวัน

มากไป แต่โดยรวมแล้ว คนนอนไม่หลับมักพะวงไปก่อนว่า ถ้าไม่ง่วง จะทำไงดี จนนอนไม่หลับจริงๆ แบบนี้การ

ฝึกนิสัยให้นอนกลางวันช่วยได้ พอถึงตอนกลางคืนแล้วไม่ง่วง ก็จะเกิดความอุ่นใจ เมื่อกลางวันนอนไปแล้ว

ตอนนี้นอนไม่หลับก็ไม่แปลกหรอก ไว้นอนกลางวันพรุ่งนี้ชดเชยละกัน พอคิดแบบนี้ใจก็สบาย สุดท้ายก็

เคลิ้มหลับไปเอง

ถ้านอนนานไปก็จะเสียสมดุล ลองคิดถึงวันหยุดที่เราหมดไปกับการนอนกลางวันย าวๆ ร่างกายจะหนัก เพลีย

ไร้พลัง ดังนั้น การนอนสั้นๆ แต่บ่อย คือการนอนที่ได้ผลดี การงีบหลับสั้นๆ จึงเป็นนิสัยที่ดีมากๆต่อการบำบัด

อาการสมองล้า

แอบกินขนมบ้าง

เวลาใช้หัวมากๆ จะรู้สึกอย ากกินของหวาน สมองของเราเป็นอวัยวะพิเศษที่ใช้แต่น้ำกลูโคลขั่วโมงละ 5 กรัม

ก า ร ไม่มีแคลนน้ำตาลจึงเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้น การกิน ของว่าง ที่ชอบ เช่น ช็อกโกแลต เค้ก คุกกี้  หรือ ชา

ระหว่างวันจะช่วยสร้างอารมณ์ดีๆ เป็นสิ่งที่สมองโปรดปรานสิ่งที่เราชอบเปรียบเสมือนของขวัญและรางวัล

ชิ้นเล็กๆ ช่วยให้อารมณ์เย็นลงจากการงาน แม้สุขภาพเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ แต่นาทีนี้นาทีที่สมองล้า เรา

ควรมอบรางวัลให้สมองเสียก่อน สร้างอารมณ์ให้ดีขึ้น ให้รางวัลบ่อยๆ ครั้งละน้อยๆ ก็ดีนะ

ทำให้รางกายอบอุ่น

เมื่อเราใช้หัวนานๆ หัวจะร้อน อุณหภูมิในสมองจะสูงขึ้น ทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลในระบบประสาทสมองดำเนิน

ได้ไม่สมบูรณ์ ต้องให้มันเย็นลง หัวจะได้โล่งปลอดโปร่ง

คนที่ใช้สมองมาก ประสาทซิมพาเทติกจะตื่นตัว ส่งผลให้หลอดแดงส่วนปลายหดตัว ไหลเวียนไม่สะดวกจึงต้อง

ทำให้ร่างกายอบอุ่น เมื่อเส้นในร่างกายไหลเวียนดี สารอาหารกับออกซิเจนจะถูกส่งไปยังเซลล์ได้สะดวก สิ่งที่

ทำใ้ห้เหนื่อยล้าจะก็จะถูกกำจัด กายและใจจึงผ่อนคลาย

ร่างกายมนุษย์ที่แข็งแรงจะมีอุณภูมิภายในอยู่ที่ 36.5 – 37.1 องศาเซลเซียส แต่ 80% ของคนทำงานใช้สมอง

หนักๆ มักมึอุณหภูมิในตัวต่ำกว่านี้ คำแนะนำคือ อาจใส่เสื้อผ้าหนาหน่อย ปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสมดื่มน้ำ

ขิงให้ร่างกายอุ่น หรือระหว่างการทำงานอาจบริหารร่างกายไปด้วย เช่น สควอช กางแขนหุบแขน แกว่งแขน

เดินยืดเส้นยืดสาย เ พ ร า ะการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโต และยังช่วยให้

รูปร่างดี คลายความอ่อนล้า ช่วยบำบัดอาการสมองล้าได้ดีด้วย

สิ่งกระตุ้นต่างๆ บุหรี่ กาเฟอีน ย าแก้ปวด มีฤทธิ์ทำให้หลอดสมองหดตัวหัวจึงรู้สึกเย็นลงจนรู้สึกผ่อนคลาย

ช่วยให้หัวเย็นลงชั่วคราว แต่หากปล่อยให้ร่างกายติดจนเป็นนิสัยจาดไม่ได้ในระยะย าวก็อาจส่งผล

อันตร า ยต่อสมองและร่างกายได้

Load More Related Articles
Load More By Life
Load More In ข้อคิดดำเนินชีวิต
Comments are closed.

Check Also

ผู้ประเสริฐ ผู้ยอดเยี่ยม นี่แหละคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับลูกๆ

ชาย ผ้ า ถุ ง ของแม่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้ไม่ต้องปลุ … …