เปิด 3 เคล็ดลับสร้างความมั่งคั่งอย่ างมั่นคง ต้องเริ่มตั้งแต่
การสร้าง การปกป้อง การเพิ่มพูน และสุด
ท้ายคือการส่งมอบความมั่งคั่งให้กับคนรอบข้าง
ค ว า มมั่งคั่ง หมายถึง การที่ขนาดของสินทรัพย์สุทธิของตนเอง ซึ่งมาจากสินทรัพย์รวมของตน
ตั ดออกด้วยหนี้สินของตน ซึ่งหากสองค่านี้ลบกัน แล้วมีค่าบวกมากๆ ก็เรียกว่ามีความมั่งคั่งมาก
ซึ่งผู้ที่มีความมั่งคั่งมาก ก็ยังสามารถต่อยอดความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ เพื่อให้กลายเป็นความ
มั่น คง ไ ด้นั่นเองเคล็ดลับที่จะทำให้ท่านมีความมั่งคั่งอย่ างมั่นคง มี “หลักในการบริหารความ
มั่งคั่ง 3 องค์ประกอบ” ด้วยกัน คือ
1 : การสร้างความมั่งคั่ง
ได้แก่ การหารายได้ ทั้งจากการดำเนินธุรกิจ รายได้จากงานประจำ รวมถึงรายได้ที่ได้มาจากการ
ใช้ความสามารถของตนเอง เป็นต้น
2 : การปกป้องความมั่งคั่ง
คือ การสร้างหลักประกัน เพื่อลดความเสี่ยงของความเสียหาย ตลอดจนความสูญเสียที่อาจเกิด
ขึ้นได้ เช่น การทำประกันชีวิต การประกันธุรกิจ
3 : การเพิ่มพูนความมั่งคั่ง
ซึ่งต้องมีการวางเป้าหมายและการวางแผน และเพื่อให้เงินทำงานอย่ างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ซึ่ง ผู้มี ความมั่งคั่งย่อมข้ามพ้นองค์ประกอบแรกไปแล้วระดับหนึ่ง แต่เพื่อให้สามารถส่งมอบ
ไ ป จ นถึงลูกหลาน “การวางแผนการเงินเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่ง” จึงเป็นปัจจัยสำคัญนำไป
สู่ความมั่นคงโดยเฉพาะการทำให้ “ขนาดและมูลค่าของสินทรัพย์ลงทุน” เพิ่มขึ้น สินทรัพย์
ลงทุนคืออะไร สินทรัพย์ลงทุน ก็เช่น อสังหาริมทรัพย์ หุ้น กองทุนรวม และหลักทรัพย์ชนิด
ต่าง ๆ เป็นต้น
ดังนั้ น เคล็ดลับของการเพิ่มพูนความมั่งคั่งจึงอยู่ตรงที่ “การเพิ่มขนาดของสินทรัพย์ลงทุน”
ซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษ คือ มีมูลค่าเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ง่ายกว่าสินทรัพย์ชนิดอื่นสืบเนื่อง
ม า จา กผลตอบแทนประจำ เช่น เงินปันผล หรือดอกเบี้ย และราคาตลาดที่เปลี่ยนไปของ
สินทรัพย์ลงทุนนั้น ซึ่งหากต้องการทำให้ขนาดและมูลค่าของสินทรัพย์ลงทุนเพิ่มขึ้นก็มี
หลักง่ายๆ แนะนำ ดังนี้
“อย่ าหยุดสะสมสินทรัพย์ลงทุนตลอดชีวิต”
ในวันนี้ถ้าเรามีสินทรัพย์ลงทุนอยู่ก้อนหนึ่งแล้ว อย่ าปล่อยให้เป็นแค่เงินฐานที่เป็นความหวัง
เ ดี ย ว เ ท่ านั้นในการต่อยอดความมั่งคั่ง แต่ผลตอบแทนจากเงินก้อนนี้ และเงินใหม่ที่เป็น
รายได้คงเหลือของเรา จะต้องใส่เข้าไปเพื่อทำให้เงินฐานก้อนนี้ใหญ่ขึ้นตลอดเวลา ยิ่งตอน
เร า ทำ ง า น อั ต ราเร่งของการสะสมยิ่งต้องสูง และค่อยๆ ลดลงเมื่อใกล้เกษียณและหลัง
เ ก ษียณ ในช่วงหลังเกษียณนั้น ถ้าผลตอบแทน จากสินทรัพย์ลงทุนใหญ่พอที่จะนำมาใช้
จ่ายในชีวิต เราอาจหยุดสะสมก็ได้ แต่ถ้าใช้ไม่หมดก็นำไปสะสมต่อหรือจะนำไปแบ่งสรร
กระจายความมั่งคั่งให้แก่ลูกหลาน หรือสังคม
การสะสมสินทรัพย์ลงทุนให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เนื่องจากมูลค่าของ
สินทรัพย์ลงทุนเปลี่ยนแปลงขึ้นลงจากปัจจัยแวดล้อม ซึ่งอาจมาจากตัวเรา ที่ตัดสินใจ
ถูกหรือผิดหรือจากปัจจัยภายนอก
เ ช่ น ภาวะเศรษฐกิจ หรือตลาด ซึ่งเราควบคุมไม่ได้ ทำให้อาจได้รับผลกระทบทางลบหรือ
บ ว ก แต่ไม่ว่าอย่ างไรก็ต้องทำภารกิจสะสมสินทรัพย์ลงทุน เราจึงต้องเรียนรู้เคล็ดลับที่จะ
สะส ม สินทรัพย์ลงทุน โดยให้มูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะย าวตามเป้าหมายของเรา โดยต้องควบ
คุ ม หรือ บรรเทาความเสียหายที่อาจทำให้มูลค่าสินทรัพย์ลงทุน มีมูลค่าลดลงให้น้อยที่สุด
ก่ อ น อื่นต้องรู้ก่อนว่า เราจะสะสมสินทรัพย์ลงทุนอะไร เ พ ร า ะในโลกของการลงทุนมีสิน
ทรัพย์ลงทุนให้เลือกอยู่มากมาย เช่น อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นที่ดิน บ้าน คอนโดมิเนียม
หรื อ สังหาริมทรัพย์ เช่น ทองคำ อัญมณี ภาพวาด เป็นต้น หรืออาจเป็นสินทรัพย์การเงินที่
จับต้องไม่ได้ เช่น หุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ฯ ตราสารหนี้ของ
ภาครัฐ ภาคเอกชน ตราสารอนุพันธ์ เป็นต้น
ซึ่ งการมีความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ลงทุนเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ต้องตกใจว่าจะต้องรู้
ทุ ก ช นิ ดหรือไม่ เราเลือกได้ แต่การที่รู้หลายอย่ างทำให้เปิดโอกาสต่อเรามากกว่า ที่จะ
ค้ นหาว่าในแต่ละช่วงเวลา สินทรัพย์ลงทุนชนิดใดให้โอกาสมากกว่าเ พ ร า ะเหตุใด เมื่อ
เ ร ามีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอ และอัพเดทข่าวสารการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดแล้ว ก็จะทำ
ให้ความเสียหาย หรือความเสี่ยงจากสินทรัพย์ลงทุนที่อาจจะลดมูลค่าลง มีค่าความเสี่ยง
น้อยที่สุดนั่นเอง