เรื่องที่ไม่รู้ ให้พูดว่าไม่รู้หากยังไม่เห็นความจริงด้วยตาอย่ าไปตัดสินใคร

ความถูกใจกับความถูกต้อง

1 : จุดไฟในตัวให้สว่าง แต่อย่ าไล่ดับไฟของคนอื่น

2 : หากไม่เห็นความจริงด้วยตาก็อย่ ารีบเอาปากของคุณมาตัดสินใครๆ

3 : เรื่องที่ไม่รู้ ให้พูดว่า “ไม่รู้” ชีวิตจะได้ง่ายขึ้น อย่ าพย าย ามทำเป็นรู้ ทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลย

4 : คนดังมักถูกขุดคุ้ยและมีเรื่องให้ถูกพูดถึงมากมากหากคุณรู้ว่าทนไม่ได้ที่จะถูกคนอื่นขุดคุ้ยหรือใส่สีตีใข่

ก็อย่ าทำตัวให้มันเด่นดังมากไป จะได้ไม่เป็นที่สนใจขอลใครๆ

5 : เมื่อมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่ าเพิ่งรีบร้อน?พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนเมื่อถูกตำหนิหรือใส่ความ?

อย่ าเพิ่งรีบแก้ตัวเ พ ร า ะเรื่องราวจะชัดเจนขึ้นเมื่อรู้จักใช้สติ

6 : อ ย่ าจองหองหรือคิดเล็กคิดน้อยกับทุกคนเ พ ร า ะสิ่งนี้จะไม่มีผลอะไรกับคนที่เขารักคุณแต่ใช่ว่าใครๆ

จะรักคุณทุกคน จงเผื่อใจเอาไว้ด้วย

7 : ถ้ามีใครมาชักชวนให้คุณทำอะไรที่ไม่ดีโดยอ้างว่า ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้นแต่คุณไม่ทำตาม? ไม่ได้แปลว่า

คุณผิดคุณเพียงแยกแยะออกระหว่างความถูกใจ กับ ความถูกต้อง

8 : พูดได้ดีกับทำได้ดี บางครั้งก็ตัดสินกันย ากเ พ ร า ะบางคนพูดไม่เป็นแต่ทำได้ดีบางคนทำไม่ดีแต่พูดเป็น

เขาจึงว่ากันว่า “ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”

9 : หากวันใดที่คุณเห็นปัญหา หากคุณไม่รู้วิธีแก้ไขก็อย่ าเพิ่งชี้ปัญหาให้คนอื่นเห็นเ พ ร า ะนั่นเป็นจุดเริ่มต้น

ของคำนินทาเห็นปัญหา รู้วิธีแก้ แก้แล้วชี้ให้เขาเห็นว่าปัญหามันคืออะไร = คนมีสติปัญญา

10 : เคารพผู้บังคับบัญชา เมตตาต่อผู้น้อยอยู่กับคนให้รู้สมาน อยู่กับงานให้มีความจริงใจ