เศรษฐีกับคนหาปลา อ่านแล้วรู้ว่า ความสุขอาจจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม
เรามักจะถูกปลูกฝังให้ตั้งใจเรียน จบไปจะได้มีหน้าที่การงานมั่นคง มีชีวิตในแบบที่ผู้ใหญ่คิดว่าดี แต่หากสิ่งนั้น
ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบคุณยังอ ย า กจะทำตามกรอบที่คนอื่นสร้างมาให้อยู่ไหม ? ถ้าในกรอบนั้น
“ไม่มีความสุข” ของคุณอยู่เลยคุณเคยสงสัยไหมว่า เป้าหมายในชีวิตของคุณคืออะไร หลายคนตั้งคำถามให้กับตัวเอง
แต่ก็ยังไม่เคยได้คำตอบที่ชัดเจนจริง ๆ สักที วันนี้เราจะมาทำให้ทุกคนเข้าใจว่า ชีวิตเราต้องการอะไรมากที่สุด
ด้วยข้อคิดดี ๆ ที่สะท้อนผ่านเรื่องเล่าดังต่อไปนี้
มีเศรษฐีคนหนึ่ง..
เขาเป็นเจ้าของธุรกิจหลายอ ย่ า ง มีลูกน้องจำนวนมาก วันหนึ่งเขาได้เดินทางไปพักตากอากาศในวันหยุดของเขา
บนเกาะแห่งหนึ่งในระหว่างที่เขากำลังนั่งชมลมทะเล พลางจิบไวน์ ด้วยอารมณ์และความรู้สึกสบายอยู่นั้น เขาก็มองเห็น
ชาวประมงคนหนึ่ง กำลังแล่นเรือมาเทียบท่าใกล้ ๆ กับที่เขานั่งและเขาก็มองเห็นว่าภายในเรือ มีทั้งปลาตัวเล็กตัวใหญ่
กองอยู่บนเรือมากพอสมควร เมื่อเรือมาจอดเทียบท่า เขาก็ได้เดินเข้าไปคุยกับชาวประมงคนนั้นเศรษฐีได้เริ่มต้นบทสนทนา
ถามชาวประมงว่า “ได้ปลามาเยอะเลยนะ ปกติคุณใช้เวลาจับปลาพวกนี้นานหรือเปล่า ?”ชาวประมงกระโดดลงมาจากเรือ
และเดินเข้ามาคุยด้วย พร้อมตอบว่า “ไม่นานเท่าไหร่หรอก”เศรษฐีจึงได้พูดต่อว่า “แล้วทำไมคุณไม่อยู่ให้นานขึ้นอีก
เพื่อที่จะมีเวลาจับปลาได้มากกว่านี้ล่ะ”ชาวประมงก็ได้ตอบกลับมาว่า “ผมหามาแค่พอกินอิ่ม และเลี้ยงครอบครัวในแต่ละวัน
ได้ ก็พอแล้ว” เศรษฐีได้ยินดังนั้น จึงถามชาวประมงกลับไปว่า “แล้วคุณใช้เวลาที่เหลือทำอะไรบ้างล่ะ”ชาวประมงก็ตอบไปว่า
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ผมก็แค่ตื่นนอนสาย ๆ แล้วก็ออกเรือไปจับปลามาเล็ก ๆ น้อย ๆ เที่ยงมาก็นอนกลางวัน บ่าย ๆ หน่อย
ก็ไปตกปลา นั่งจิบไวน์ และตอนเย็นก็นั่งเล่นกับเพื่อนฝูงแถวบ้าน”เมื่อได้ยินแบบนั้น เศรษฐีจึงพูดไปว่า “คุณอ ย า กรวย
หรือเปล่า ผมสามารถแนะนำให้คุณได้นะ สิ่งแรกที่คุณต้องทำเลยก็คือ คุณต้องใช้เวลาในการจับปลาแต่ละวันให้มากขึ้น
กว่านี้” ด้วยความสงสัย ชาวประมงก็เอ่ยว่า “แล้วยังไงต่อ” เศรษฐีบอก “พอคุณจับปลาได้วันละมาก ๆ คุณก็นำปลาไปขาย
พอได้เงินมามาก ก็เก็บเงินซื้อเรือที่ลำใหญ่กว่านี้”ชาวประมงก็ถามต่อว่า “แล้วยังไงต่อ”เศรษฐีบอก “พอคุณมีเรือลำใหญ่
คุณก็จะสามารถออกหาปลาได้ครั้งละมาก ๆ ในครั้งเดียว ประหยัดเวลา”ชาวประมงก็ถามว่า “แล้วยังไงต่อ”เศรษฐีบอก
“เมื่อคุณได้ปลามาก คุณก็เอาไปขายที่โรงงาน คุณมีปลาเยอะ คุณก็ขายได้เยอะ และคุณก็จะได้เงินเยอะขึ้นไปอีก”
ชาวประมงก็ถามว่า “แล้วยังไงต่อ”เศรษฐีบอก “จากนั้นคุณก็เอาเงินไปเปิดโรงงานเอง แล้วคุณก็จ้างลูกน้องมาทำงาน
แทนคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องมาทำงานเองทุกวัน”ชาวประมงจึงถามว่า “แล้วผมจะอ ย า กมีลูกน้องไปทำไม ในเมื่อผม
ทำคนเดียวของผมไปแบบนี้ ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร”
เศรษฐีก็บอกว่า “คุณก็จะได้มีเวลา มีอิสระมากขึ้น ทีนี้คุณก็จะได้นอนตื่นสาย ๆ แล้วก็ออกเรือไปจับปลามาเล็ก ๆ น้อย ๆ
เที่ยงมาก็นอนกลางวัน บ่าย ๆ หน่อยก็ไปตกปลา นั่งจิบไวน์ และตอนเย็นก็นั่งเล่นกับเพื่อนฝูง ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้ไง”
ชาวประมงถามเศรษฐีกลับว่า “แล้วทั้งหมดที่คุณพูดมานี่ มันต้องใช้เวลากี่ปี”เศรษฐีก็บอกว่า “อาจจะสัก 10-15 ปีแหละมั้ง
ถ้าคุณมีความสามารถ คุณก็จะสร้างธุรกิจให้โตได้เร็วนะ”ชาวประมงได้ฟังคำตอบ ก็ได้แต่ยิ้ม และตอบกลับไปว่า
“แล้วทำไมผมจะต้องเสียเวลารออีกตั้ง 10-15 ปี ในเมื่อทุกวันนี้ผมก็ทำแบบนั้นทุกวันอยู่แล้ว”
“ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพไม่ต้องมากก็พอใช้ ทำงานเพื่อเลี้ยงกิเลสมากเท่าไรก็ไม่พอ”
ชีวิตคนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตอ ย่ า งมีคุณภาพและมีความสุข ไม่ใช่เพื่อหาเงินอ ย่ า งเหน็ดเหนื่อยหลายสิบปี
เพื่อแลกกับความสุขบั้นปลายชีวิต กับเวลาที่เหลือเพียงน้อยนิดเราไม่ได้บอกให้คุณหยุดทำงาน หรืออยู่อ ย่ า งสบาย
โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่เราอ ย า กให้คุณสร้างสมดุลชีวิตของตัวเองให้ได้การที่คนเราจะมีความสุขได้ ไม่จำเป็น
ต้องรอให้รวยก่อน แต่เราสามารถใช้ชีวิตที่มีอยู่ อ ย่ า งมีความสุขได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะยังไม่รวยก็ตาม