Home ข้อคิดดำเนินชีวิต ต้นต่อสาเหตุหลักๆของชีวิตคนวัยทำงานก็คือเรื่องเงินที่มักจะมีปัญหาอยู่ตลอด

ต้นต่อสาเหตุหลักๆของชีวิตคนวัยทำงานก็คือเรื่องเงินที่มักจะมีปัญหาอยู่ตลอด

4 second read
0
911

เรียนจบหางานทำ ใช่ว่าจะเอาตัวรอดได้ หากรู้ไม่ทัน

สำหรับน้องๆที่จบใหม่ ได้เปลี่ยนช่วงจากวัยเรียน ก้าวเข้าสู่สังคมการทำงาน จำเป็นจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวและเรียนรู้

อะไรหลายๆอย่ าง หลายคนก็ใช้ชีวิตไปได้อย่ างราบรื่น ตามที่วางแผนเอาไว้ แต่หลายคนก็ต้องก้าวไปอย่ างย ากลำบาก

สาเหตุหลักๆของชีวิตคนวัยทำงานก็คือ เรื่องการเงิน ที่มักจะมีปัญหากันการไม่วางแผนทางการเงินใช้เงินไม่เป็นเงินเก็บ

ก็ไม่มี และนี่คือสาเหตุ 7 ข้อ ที่ทำให้เกิดปัญหาตามมา

1 : ไม่มีระเบียบในการใช้เงิน

หลายคนชอบคิดว่า การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ไม่สำคัญ แล้วก็ใช้เงินไปแบบไม่ระมัดระวัง พอถึงสิ้นเดือนก็มานั่งคิดว่า

เงินหายไปไหนหมด ก็ไม่เห็นได้ใช้อะไรมากมายเลย หาต้นตอไม่เจอ ก็อุดรอยรั่วของกระเป๋าเงินไม่ได้แต่ถ้าเราทำบัญชี

รายรับ-รายจ่าย ทุกวัน จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของการใช้เงินของตัวเอง รู้ว่าเดือนนี้ใช้เงินไปกับอะไรบ้างและส่วน

ไหนที่จะทำให้เราลดรายจ่ายได้บ้าง ก็จะช่วยให้เราจัดการกับการใช้เงินได้อย่ างมีระเบียบมากขึ้น และเหลือพอที่จะมี

เก็บได้ด้วย

2 : ไม่มีการวางแผนสำหรับอนาคต

น้องๆหลายคนที่เพิ่งเรียนจบ อายุเพิ่งจะ 20 ต้นๆ รู้สึกว่าการเกษียณนั้น เป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก กว่าจะอายุถึงวัย 60 ก็ยังมี

เวลาทำงานเก็บเงินอีกเยอะ ขอใช้ชีวิตแบบที่ต้องการก่อน และเวลาที่มีคนพูดถึงเรื่องการเตรียมตัวก่อนวัยเกษียณ ก็มัก

จะไม่สนใจและไม่ให้ความสำคัญกับมันเท่าที่ควรแต่กลับไม่คิดว่า การรู้เร็ว เตรียมตัวก่อน เราก็จะมีเวลามากกว่าคนที่รู้ช้า

หรือเพิ่งคิดได้ว่าต้องมีเงินเก็บสำหรับวัยเกษียณ และยิ่งถ้าเป็นพนักงานเอกชน ที่ไม่ใช่ข้าราชการ ไม่มีสวัสดิการหรือ

เงินบำหน็จ บำนาญมาช่วย แล้วชีวิตจะเป็นยังไงตอนแก่

3 : ดูถูกการออมเงินทีละน้อย

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า การออมเงินทีละน้อยๆ กว่าจะได้เงินเป็นก้อนก็เลยไม่อย ากออม เวลาที่มีคนบอกหลักการว่าควร

ออมอย่ างน้อย 20% ของเงินเดือนนะ ก็ชอบบ่นว่า… “เยอะเกิน…ออมขนาดนั้น จะพอกินพอใช้ได้ไง ” พอมีคนแนะนำว่า

ถ้าไม่มี ออมทีละน้อยๆก็ได้ เดือนละ 500 ก็ยังดี ก็จะพูดว่า…“น้อยขนาดนั้น เก็บทั้งปีก็ยังได้ไม่ถึงหมื่น “ ไว้ค่อยออมที

เ ดี ย วตอนโบนัสออกเลยดีกว่าสุดท้ายจะมีเยอะหรือมีน้อย ก็ไม่มีเงินเก็บอยู่ดี เ พ ร า ะมีนิสัยชอบผัดวันประกันพรุ่ง

การออมที่ดี ไม่ได้ดูที่จำนวนเงิน ว่าเก็บได้มากหรือน้อย แต่มันเป็นการ “ฝึกนิสัยรักการออม” แล้วจะทำให้เรามีเงิน

เก็บไว้ไปต่อยอด สำหรับโอกาสในชีวิตได้

4 : ขาช้อป เห็นป้าย Sale เป็นต้องใช้เงิน

เวลาที่เห็นป้าย Sale ก็ต้องใจอ่อนทุกที สินค้าลด 50% จากราคาปกติ 3000 บาท เหลือ 1,500 บาท และชอบคิดเข้าข้าง

ตัวเองว่า ได้ลดตั้ง 1,500 บาท แต่ในความเป็นจริง คุณกำลังเสียเงินไป 1500 บาท เพื่อที่จะซื้อของลดราคา ทั้งๆทีบางที

แล้ว ถ้าคุณไม่เห็นป้าย Sale คุณอาจจะไม่อย ากได้ ไม่อย ากซื้อเลยก็ได้  เ พ ร า ะคิดว่ามันแพงไป ยังไม่จำเป็นได้ใช้

หรืออีกประเภทที่ชอบซื้อของผ่อน 0% คิดว่าตัวเองผ่อนไหว มือถือเครื่องละ 30,000 บาท ผ่อนเดือนละ 3000 เอง

พอไปเห็นของชิ้นอื่นผ่อน 0% อีก ก็อย ากได้อีก สุดท้ายก็ทับถมใส่กัน จากที่คิดว่าไหว กลายเป็นไม่รอดซะแล้ว

5 : ชอบสร้างหนี้ก้อนใหญ่ หนี้ระยะย าว

สมัยนี้คนจบใหม่ สามารถกู้เงินธนาคารได้ง่ายมาก ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรมากมาย ทำให้น้องๆที่จบใหม่อย ากจะมีทรัพย์สิน

เป็นของตัวเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ทำให้ตัวเองดูมั่นคง มีบ้าน มีคอนโด มีรถ แต่กลายเป็นว่า ต้องมีภาระก้อนใหญ่เป็น

หนี้สินระยะย าวโดยเฉพาะบ้านที่มีดอกเบี้ยสูงและยังต้องผ่อนนานไม่ต่ำกว่า 20-30 ปี เรียกได้ว่าเกือบจะตลอดชีวิต

ของการทำงานเลยก็ว่าได้ ที่ต้องหาเงินแต่ละเดือนเพื่อมาผ่อนค่าบ้าน และสิ่งนี้แหละที่ทำให้สุขภาพทางการเงิน

ของคนจบใหม่ พัฒนาไปช้ามาก ไม่เหลือเงินไว้เก็บหรือเอาไปลงทุนต่อยอดได้

6 : ไม่มีความรู้ด้านการเงิน และไม่ขวยขวายที่จะหา

หากน้องๆคนไหนมีความคิดที่ว่า “แค่ขยันทำงานก็พอแล้ว…เดี๋ยวก็รวยเอง “ สุดท้ายต้องทำงานไปเกือบเวลาทั้งชีวิตจน

ร่างกายพัง แต่กลับยังอยู่ที่เดิม เ พ ร า ะไม่รู้จักการลงทุน ไม่รู้จักวิธีให้เงินทำงาน สมัยนี้มันมีเครื่องมือที่ช่วยสร้างรายได้

ให้เรามากมาย ดีกว่าการเสียเวลาใช้แรงเพื่อแลกกับเงินเดือนมีคำกล่าวที่ว่า…“การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรก สู่ความ

ร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน “ ใช้แต่แรงทำงาน แต่ไม่รู้จักใช้ความรู้ด้านการเงิน ก็รวยได้ย ากนะ

7 : ไม่สร้างเป้าหมายให้ชีวิต

คนไม่มีเป้าหมาย ก็เหมือนคนไม่มีเส้นชัย มองไม่เห็นทาง ไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหน ถึงจะประสบความสำเร็จสักทีและ

สุดท้ายก็ไม่มีอะไรที่จับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอัน การตั้งเป้าหมาย ก็เหมือนกับการสร้างทางเดินให้ตัวเอง ให้ตัวเองเห็น

เส้นชัยและรู้เส้นทางที่จะเดินไปได้อย่ างถูกต้องเราอาจจะเริ่มจากการตั้งเป้าหมายเล็กๆ อย่ างเช่น ปีนี้จะเก็บเงิน

ให้ได้ 30,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง กล้าลงมือทำเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ต่อไป

ในวันข้างหน้า

Load More Related Articles
Load More By Life
Load More In ข้อคิดดำเนินชีวิต
Comments are closed.

Check Also

ผู้ประเสริฐ ผู้ยอดเยี่ยม นี่แหละคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับลูกๆ

ชาย ผ้ า ถุ ง ของแม่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้ไม่ต้องปลุ … …