1. หยุดโห ยห าความรัก
สำหรับคนที่มีครอบครัวอยู่แล้ว จงกลับมาดูแลคู่ชีวิตและลูก
ของคุณให้มากขึ้น เขาเหล่านั้นเป็นคนที่หวังดีกับคุณเต็มร้อย
โดยไม่มีเงื่อนไข สำหรับชายโสดไม่ง่ายที่จะหาคู่ชีวิตที่รักตัว
คุณมากกว่าเงินในกระเป๋าของคุณ หาหมาหาแมวมาเลี้ยงยัง
ง่ายกว่า สำหรับสาวโสด คุณคงเคยชินกับชีวิตที่ต้องโสดแล้ว
และรู้ว่าอยู่คนเดียวนั่นแหละสบายที่สุดแล้ว
2. เลิกกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงของ ร่ า ง ก า ย
อย่ างรอยตีนกา รอยเหิ่ยวย่นใต้ตา เหนียงที่คอ ริ้วรอยเหล่านี้
เป็นตัวบอกถึงประสบการณ์ที่คุณผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนใน
ช่วงชีวิตที่ผ่านมา คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงความแ ก่ได้ จงภูมิใจ
และยอมรับมัน และจงแก่อย่ างสง่างาม
3. หยุดนึกถึงความล้มเหลวในอดีต
เพราะว่าการคิดถึงแต่เรื่อง ร้ า ยๆ ที่มันผ่านมาแล้วนั้น จะทำให้
ความสุขที่คุณควรจะได้รับในปัจจุบันหายตามไปด้วย จงคิดเสมือน
ว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ แต่ลงมือทำเสมือนว่าคุณยังมีอายุ
ยืนยาวได้ถึงแปดสิบปี หรือร้อยปี
4. หยุดการใช้จ่ายเงินที่ฟุ่มเฟือย
ถ้าคุณเริ่มคิดเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ดูเหมือนว่ามันค่อนข้าง
ที่จะสายไปแล้วนะ เพราะถ้าคุณอายุเกิน 50 เมื่อไร คุณควรมีเงิน
สะสมที่ใช้หลังเกษียณต่อปี บวกไปอีก 10 ปี เช่น อายุ 51 ควรมี
เงินสะสม 10+1=11 ปี อายุ 52 ควรมีสะสม 12 ปี หากอายุ 60 ปี
ควรมีเงินสะสม 20 ปี นั่นเป็นตัวเลขโดยประมาณ
5. เลิกแคร์ว่าคนอื่นในสังคมจะคิดถึงคุณอย่ างไร
หน้ าก ากและหั วโข นจะอยู่กับคุณอีกไม่ถึงสิบปี คุณควรหัดที่จะ
ปล่อยวางและลดตัวตนของคุณลงบ้างได้แล้วนะ กลับไปหาเพื่อน
ที่ดีและจริงใจกับคุณจริงๆ ออกห่างจากคนที่ไม่จริงใจกับคุณ หรือ
คนที่มาเพียงเพื่อจะเอาประโยชน์จากตัวคุณ หรือมาเอาเปรียบคุณ
6. หยุดการเล่นโซเชียลที่มากเกินไป
คุณควรเริ่มทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและมีคุณค่า ดีกว่าเสียเวลากับ
การท่องโลก Social จริงๆการเล่นเฟซบุ๊ก เล่นไลน์ เราสามารถเล่น
ได้นะ แต่ต้องมีการจำกัดเวลาด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้คุณ
เสี ยเวลาและได้ประโยชน์น้อย
7. หยุดปิดกั้นจิตใจตัวเองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ช่วงเวลาที่ผ่านมาคุณอาจจะพลาดอะไรหลาย ๆ ไปเพราะการปิดใจ
ตัวเองไว้ เพียงแค่ลองเปิดใจและเรียนรู้ คุณจะพบว่าโลกมันกว้างกว่า
ที่คุณคิดนะ
5. หยุดทำ ร้ า ย ร่ า ง ก า ย ของคุณ
เช่น การเม าค้าง อดหลับอดนอน ขับรถเร็ว อายุเริ่มมากขึ้นแล้ว
คุณหันกลับมาดูแล ร่ า ง ก า ย ด้วยการออกกำลังกายตัวเองจะ
ดีกว่านะ หลายๆ คนคงจะผลัดวันและเลี่ยงการออกกำลังกายมา
ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาวแล้ว แต่เมื่ออายุเลขขึ้นห้าหมายความว่าร่ า ง
ก า ย คุณกำลังจะร่วงโรยแล้ว ดังนั้น ควรหันมาใส่ใจกับการออกกำ
ลังกายจริงจังเสี ยที
6. ลดการทำงานหนักได้แล้ว
ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนภาคเอกชน อายุ 50 ปีแล้วแต่ยังไม่ขึ้น
เป็นระดับผู้บริหาร แสดงว่าคุณคงไม่อยู่สายตาเจ้านายสักเท่าไร
อย่ าเสี ยพลังชีวิตไปกับการทำงานหนักเลย ควรใช้เวลาในการ
ดูแลสุ ข ภ า พ ตัวเองให้มากขึ้นจะดีกว่า ถ้าคุณขึ้นเป็นระดับผู้
บริหารที่ต้องทำงานหนักเพื่อบริษัท ก็จัดสรรเวลาให้กับครอบครัว
และ สุ ข ภ า พ ตัวเองบ้าง ถ้าคุณเป็นข้าราชการคุณมีความมั่นคง
และมีเวลาว่างพอสมควรแล้ว ใช้เวลาดูแล สุ ข ภ า พ และเตรียม
งานอดิเรกหลังเกษียณได้เลย ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการคุณคงต้อง
เริ่มหาผู้ช่วยมือขวาที่ไว้ใจได้มาช่วยคุณบริหารงานได้ โดยที่คุณ
สามารถออกมาดูแลห่างๆ ได้ แต่อย่ าหวังว่า ลูกของคุณจะรับภาระนี้
ปล่อยให้เขาเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองเถิด
10. หยุดลังเลเกี่ยวกับการทำงานและการหางานใหม่
เมื่ออายุย่างเข้าวัย 50 แล้ว คุณควรจะมีงานที่มั่นคง และเป็นงาน
ที่คุณรักจริงๆ ได้แล้ว เพราะถ้างานนั่นไม่ใช่ตัวตนของคุณ มันก็คง
จะสายเกินไปที่จะไปเริ่มใหม่ จงอดทนทำต่อไปเพราะคุณคุ้นชินกับ
มันแล้ว ถ้าจะหางานใหม่น่าจะเป็นงานที่คุณอยากทำหลังเกษียณมากกว่า