1 : เถียงกันจากเรื่องเล็ก ๆ จนบานปลาย
มันอาจจะเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ เช่น ‘วันนี้ ใครจะล้างจาน’,‘วันนี้ใครจะจ่ายค่าไอติม’แต่ไม่มีใครยอมอีกฝ่าจนบานปลายทะเลาะ
กันใหญ่โต ลามไปถึงลักษณะนิสัยพฤติ ก ร ร ม ไม่ดีที่ผ่านมาตั้งแต่ชาติที่แล้วแล้วสรุปด้วยคำว่า‘เป็นอย่ างนี้ไงถึงอย าก
เลิก’ บางคู่อาจเก็บอารมณ์ถ้าอยู่นอกสถานที่ แต่พออยู่ในบ้านเท่านั้นแหละใส่ไม่ยั้ง ทั้งตะโกนกรีดร้อง เขวี้ยงปาข้าว
ของร้องไห้
2 : เธอให้อภัยความผิด ของแฟนไม่ได้
ต่อจากข้อข้างบนเธอ ไม่ยอมและไม่มีวัน ให้อภัยความผิด ของแฟนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตามแค่เขาลืม
ล้างจานลืมซักผ้า เธอก็โกรธเป็นฟืน เป็นไฟเหมือนเขาไปบางคู่ผู้ชายก็ทำความผิด แรงจริง ๆเช่นบังคับเธอให้ออกจากงาน,
ตะคอกใส่เธอเสียงดัง ด้วยคำพูดหย าบคาย, ทำให้เธออับอายต่อหน้า สาธารณชนนึกขึ้นมาเมื่อไหร่ก็รับไม่ได้ทุกทีแล้วเธอ
จะแบกความทรงจำเหล่านี้ ไปตลอดชีวิตหรือจะมานั่งทบทวนแล้วหาทางออกร่วมกัน หรือจะแยกทางใคร ทางมัน
3 : ใช้เวลาห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
จากที่เคยตัวติดกันเป็น ตังเม ก็เริ่มมี ปัญหาชีวิต/ ภาระหน้าที่ / วิถีชีวิตไม่ตรงกันทำให้ใช้เวลาห่างกันบ่อยขึ้นอันที่จริงห่าง
กัน บ้าง เป็น เรื่องดี เ พ ร า ะทำให้ แต่ละฝ่าย ได้ ใช้ชีวิตของตัวเองเว้นระยะให้คิดถึงกันบ้าง แต่ถ้าในใจของเธอ กลับไม่
อย ากเห็น อย ากคุยกับแฟน ติดต่อกันนานๆเป็นไปได้ว่าเธอสบายใจกว่าถ้าเขาไม่มายุ่งกับเธอค่ะ วิธีสังเกตตัวเองง่าย ๆ
คือถ้าเธอรู้สึกว่าการนัดเจอนัดเดทกับแฟนเป็น ‘หน้าที่’ ที่ต้องทำไม่ใช่สิ่งที่ทำตามความรู้สึกหรือหัวใจแปลว่าเธอกำลัง
เบื่อ และอาจไปหาคนใหม่ ที่ตื่นเต้นกว่าได้ทุกเมื่อถ้ายังไม่ อย ากปล่อยมือแฟนก็ต้อง จับเข่าคุยกันแล้วล่ะ ว่าสาเหตุ
ที่ทำให้เธอเบื่อคืออะไร แล้วแก้ไข มันซะ
4 : เธอกับแฟนไม่รู้สึกสนิทกันอีกต่อไปแล้ว
เมื่อแรกคบก็ตัวติดกันตลอดปล่อยมือกัน เกินสองนาที ไม่ได้ ต้องจับมือกัน เดินไปนั่นนี่ตลอดแต่ตอนนี้อย่ ามาจับนะร้อน
เปื้อนเหงื่อสำหรับคู่ แต่งงาน ก็ละเลย เรื่องบนเตียง ไปโดยปริย าย เ พ ร า ะรู้สึกกระดาก และแปลก ๆ ที่ต้องมาสัมผัส
ร่างกายกัน ก็แค่หอมแก้ม กอดยังไม่อย ากทำเลยนี่นาอาการแบบนี้ อธิบายได้สั้น ๆ ว่า“ไม่รู้สึกสนิทสนม ด้วยแล้ว”
5 : เริ่มคิดถึง ‘การเลิกรา’ (หรืออาจวางแผน จะเลิกแล้ว)
‘ห่างกันสักพัก’ อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ ที่คลอนแคลนดีขึ้น เ พ ร า ะได้เวลากลับไป คิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมาและอาจกลับ
มาเข้าใจกันอีกครั้ง แต่มันก็คือดาบสองคมถ้าไม่กลับมาคืนดีแล้ว รักกันมากกว่าเดิม ก็เลิกกันไปเลย ซึ่งคู่รักหลายคู่ ก็ใช้
เหตุผลนี้เป็นการบอกเลิก อย่ างเนียนๆ นั่นแหละค่ะลองสังเกตตัวเองว่าเมื่อใช้สถานะ ‘ห่าง’กับแฟนแล้ว รู้สึกมีความสุข
เป็นอิสระ มากขึ้นไหมถ้าใช่ก็ส่อสัญญาณกลาย ๆ ว่าต่อไป ต้องเลิกกันแน่นอน
6 : คิดถึงแต่ด้านลบของแฟน วลาที่ไม่ได้ อยู่ด้วยกัน
แทนที่จะคิดถึง อย ากให้เขามาอยู่ด้วย ตอนที่ห่างกันเธอกลับ คิดถึง มุมแย่ๆ แง่ไม่ดีแง่ลบสิ่งน่ารำคาญทุกเรื่องที่แฟนหนุ่ม
ทำถ้าเวลาเดียว ที่เธอเลิกคิดเรื่องแย่ ๆ คือ ตอนเขาเอาใจเธอ แปลว่าเธอเห็นค่าของแฟนแค่ตอนที่เขาทำดี กับเธอแค่นั้น
เองมีคำหนึ่งกล่าวว่า‘ถ้าเธออย ากรู้ว่าหัวใจตัวเองอยู่ที่ไหนคนแรกที่เธอนึกถึงก็คนนั้นแหละ’และถ้าในห้วงคำนึงนั้นไม่มี
แฟน หนุ่มของตัวเองอยู่เลยไม่ว่าจะรู้ตัว หรือไม่เธอไม่ได้รัก เขาอีกต่อไป แล้วล่ะค่ะ
7 : หงุดหงิดแฟน แม้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ
เมื่อก่อนแฟน ทำอะไรก็ดู ‘ดีงาม’ ไปซะหมด ท่วงท่าในการเดิน การเขียนหนังสือการขยับนิ้วมือไปมาของเขาแค่เห็นก็
ทรมานใจสุดๆ อะไร จะหล่อจะเท่ขนาดนี้แต่ปัจจุบัน…แค่ได้ยินเสียงลมหายใจฟืดฟาดของเขา ก็หงุดหงิดได้อีกไปให้
พ้น ๆ สายตาได้ไหมไม่สิไปให้พ้น จากชีวิตน่าจะดีกว่า (แฟนได้ยินรีบไป ผูกคอใต้ต้น ถั่วงอกรัว ๆ )แค่เขาเข้ามาอยู่
ใกล้ ๆ เธอก็แทบ จะสะอิดสะเอียน ผดผื่นคันจนต้องบอกให้เขา‘ไปให้ไกลๆ’ เป็นไปได้ว่าเธอไม่รู้สึกว่าเขา‘มีเสน่ห์’
อีกต่อไป แล้วแต่กลายเป็นสิ่งน่ารำคาญ อย่ างหนึ่งและนี่แหล ะจะนำไป สู่การเลิกรา
8 : เธอเอาแต่คิดว่า “ถ้าฉันโสด จะเป็นยังไง”
“ถ้าฉันโสด จะเป็นยังไง ฉันจะเรียนได้ เกรดดีมากขึ้นไหม ทำงานแล้วได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นหรือเปล่าหรืออาจจะมีเวลาทำงาน
อดิเรกที่ชอบมากขึ้นอืม…แล้วถ้าฉันเปลี่ยนแฟนล่ะจะมีความสุขมากขึ้นหรือเปล่านะ”ถ้าเธอมีความคิดแบบนี้วนเวียนใน
สมอง จากนานๆ ทีกลับบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าเธออย ากมีชีวิตใหม่ และแน่นอนไม่มีแฟนของเธอรวมอยู่ในนั้น
ด้วยอีกต่อไปแล้ว
9 : คุยเมื่อไหร่ทะเลาะทุกที
เมื่อก่อนน่ะ เหรอเธออย าก อยู่กับแฟน ‘ตลอดเวลา’ 24 ชั่ ว โมง ยังไงก็ไอเลิฟยู ขอตามติดไปทั่วทุกที่คุยกันได้ทุกเรื่องคุย
จนหลับแล้ว ตื่นขึ้นมาคุยอีก ก็ไม่เบื่อขอให้ได้ อยู่ด้วยกัน ก็พอแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีอะไร จะคุยด้วยสักนิด ไม่อย ากเล่าอะไร
ให้ฟังทั้งนั้น แค่ขยับปากยัง ขี้เกียจเลยพอเขาอย ากคุยเธอก็เริ่มหงุดหงิดถ้าไม่ทำเงียบ ๆ ก็หาเรื่องพูด ให้เขาอารมณ์เสีย
ในที่สุด ก็ทะเลาะกันจนได้ถ้าเหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นซ้ำ ๆ แปลว่า เธอไม่อย ากมีเขาอยู่ในความสัมพันธ์แล้ว เตรียมรอ
วันเลิกได้เลย
10 : เริ่มวิพากษ์วิจารณ์หาข้อเสีย ของแฟนมาก ขึ้นเรื่อย ๆ
เจอแฟนทีไร ขอให้ได้บ่นว่าขุดคุ้ย วิพากษ์วิจารณ์ข้อเสียต่างๆ นานา เธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้‘ทำไมหาเงินได้แค่นี้เองล่ะ’
อย ากให้เขาหล่อขึ้นมีชื่อเสียงมากขึ้นรวยขึ้น มีความคิดมากขึ้นเ พ ร า ะตอนนี้ มองยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจเธอสักอย่ าง
มาตรฐานต่ำ กว่า เกณฑ์สุด ๆ ถ้าเธอเป็นแบบนี้ แปลว่า เธอไม่ได้ มองเขาในฐานะ ‘คนรัก’ แล้วแต่มองในฐานะ‘
สินค้าที่ต้องปรับปรุง’ผู้ชายที่โดนพูดกรอกหูว่าตัวเองต่ำต้อยซ้ำแล้ว ซ้ำเล่านานวันความอดทนก็จะหมดลง
เขาจะเริ่มไม่พอใจ และหันมาวิจารณ์เธอบ้างในที่สุด ก็ทะเลาะ และเลิกราค่ะ