ถึงจะไม่สมหวังกับความรักครั้งนั้น แต่กลับมีความสุขมาก
สมหวังกับผิดหวังย่อมมาพร้อมกันเสมอ และสิ่งที่ตามมาก็อาจจะเป็นความเสียใจ ใครๆ ก็ต้องเคยมีความรู้สึก
แอบชอบใครสักคนมาก่อน จะรุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือแม้กระทั่งเพื่อนตัวเอง แต่มันจะมีสักกี่ครั้งกัน ที่การแอบชอบ
หรือแอบรักเขาข้างเดียวนั้นจะสมหวังอย่ างที่เราวาดฝันไว้
มั่นใจมากว่าถ้าบอกชอบหรือบอกความรู้สึกออกไปเขาจะคิดเหมือนเราแน่นอน…หรือแม้กระทั่งความคิดที่ว่า
“จะบอกไปดีไหมนะ” “ถ้าพูดไปเขาจะหายไปหรือเปล่า”
โชคดีสำหรับเราเหลือเกินที่ครั้งหนึ่งเคยแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง เป็นรุ่นพี่ต่างคณะที่รู้จักกันผ่านโครงการหนึ่ง
ที่ได้ทำร่วมกันในมหา”ลัย
เหตุผลที่ชอบ…น้อยเหลือเกินถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาทำให้เราช่วงนั้นมีโอกาสอยู่ด้วยกันทุกวัน ไปไหนไปด้วย
กันตลอด เอาเราขึ้นรถไปด้วยตลอด เรียกได้ว่าจากที่ไม่ค่อยได้คุยกัน กลับเริ่มสนิทกันและพูดคุยกันมากขึ้น
จนกระทั่งรู้ใจตัวเองว่าชอบเขาขึ้นมาจริงๆ
ถึงโครงการที่ทำให้เรารู้จักกันจะจบแล้ว ก็ยังไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่บ่อยๆ เหมือนกับว่าถ้ายังอยู่ในช่วงที่
ยังอยู่มหา “ลัยด้วยกันทั้งคู่ เราก็อย ากจะไปไหนมาไหนด้วยกันกับเขาจนวันนึงเรารู้สึกอย ากบอกชอบเขา
ขึ้ น ม า ยังไงไม่รู้ เลยหาเรื่องคุยทำเป็นขอความเห็นว่าจะบอกยังไงดี ใช้วิธีตีเนียนว่าจะไปบอกชอบคนที่
กำลังชอบอยู่ตอนนั้น แต่พย าย ามไม่ให้เขารู้ว่าคนที่ชอบคือเขานะกลัวก็กลัว แต่สุดท้ายก็ได้รับกำลังใจ
เล็กๆ มาว่า “สู้ดิ (ชื่อเรา)” เลยจะหาเวลาเหมาะๆ บอกเขาหลังจากวันนั้น
แ ต่ แผนที่วางไว้กลับพังลงไม่เป็นท่าเมื่อรู้ว่าเขากำลังคุยกับคนที่เราไม่คิดว่าเขาจะไปคุยกันได้ ความคิด
ติดลบกรูเข้ามาในหัวมากมาย คิดอยู่นั่นว่าไปรู้จักกันตอนไหน ทำไมถึงไปคุยกันได้…มากมายจนเรารู้สึก
เหมือนตัวเองกลายเป็นฝุ่นผงลอยในอากาศที่ไม่มีใครมองเห็น
วันที่รู้ว่าเขามีคนคุย วันที่รู้ว่าคนคุยเขาเป็นใคร เป็นวันที่เราต้องทำเหมือนตัวเองเข้มแข็งที่สุด วันที่เดินเข้า
มาหาเราโดยที่มีคนคุยเขานั่งอยู่ข้างๆ กัน เหมือนใจเรามันกำลังจะแตก น้ำตาพร้อมไหลตลอดเวลา…แต่
สุดท้ายก็ต้องข่มมันไว้ไปร้องไห้ในห้องน้ำพร้อมแชทไลน์กับเพื่อนที่พย าย ามบอกว่า “กลับหอได้แล้ว”
The show must go on…นั ดเพื่อนทำงานยังไง ก็ต้องอยู่ในสภาพนั้นจนกว่างานวันนั้นจะเสร็จซึมไป
ครึ่งวันจนเพื่อนอีกคนรู้สึกได้ว่าเราดาวน์ความรู้สึกตัวเองไปแล้ว….
สุ ด ท้ายงานเสร็จกลับหอไปนอนร้องไห้คนเดียว ไม่ใช่ว่าไม่สมหวังแล้วต้องเสียใจขนาดนั้น แต่เรารู้สึก
เหมือน……ต่อไปเราจะไม่ได้ไปไหนด้วยกันบ่อยๆ แล้วใช่ไหม
อารมณ์ประมาณคนหวงของ ไม่อย ากให้เขาไปเป็นของใคร ถึงจะไปเป็นของใคร คนๆ นั้นก็ต้องดีพร้อม
เหมือนที่เขา ดีกับคนอื่น
ณ ตอนนั้นมันมีแต่ความคิดที่เห็นแก่ตัวเต็มไปหมดจนกระทั่งเราตัดสินใจบอกชอบเขาตอนนั้น…บอกชอบ
ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ แล้วสิ่งที่ได้รับก็หนีไม่พ้นคำว้าพี่น้องและคำขอบคุณ
เข้าใจหรือยัง คำว่า “ยิ้มทั้งน้ำตา” มันเป็นยังไงไม่ผิดที่เขาจะคิดแบบนั้น แต่ผิดที่เราเป็นคนของเขาไม่ได้
เ ท่ านั้นเองแต่ถามว่าพอมองย้อนกลับไปแล้วถือว่าคิดผิดไหมที่กล้าบอกความรู้สึก…เรารู้สึกเดินถูกทาง
แล้วจริงๆ
เขาก็ยังเป็นพี่ชายที่ดีของเรา ไปไหนยังไปด้วยกัน ชวนอะไรก็ว่างให้ตลอดถึงเขาจะเลิกคุยกับคนนั้นแล้ว
อาจจะมีใครเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ตามยังยิ้มให้เหมือนเดิมเหมือนสิ่งที่เราพูดไปไม่เคยเกิดขึ้น ทุกอย่ างยัง
เหมือนเดิมจนไม่กล้าคิดว่าเขากำลังฝืนอยู่หรือเปล่านาน ๆ ทีจะทักไปบ้าง ไปหาอะไรกินกันสักสองสาม
ครั้งต่อปี เขาก็ยังมีเรื่องเล่าเหมือนเดิม ยังถามไถ่สารทุกข์เหมือนเดิม
จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่กล้าชอบใครอีก ไม่กล้าไปหลงรักใครง่ายๆ กลัวว่าจะไม่มีความสุขเหมือนวันที่ได้
ชอบเขา หรือแม้กระทั่งกลัวว่าตัวเราจะเสียใจเหมือนวันนั้นอีกตอนนี้ก็ทำได้แค่ปล่อยวางในเรื่องพวกนี้
แล้วใช้ชีวิตต่อไป ให้คำว่าคิดถึงทำให้รู้สึกอย ากคุยกับเขา ได้คุยกันเรื่องไร้สาระ ได้คุยกันเ พ ร า ะ
ขอคำปรึกษาเขา แค่นี้ก็มากพอสำหรับ “น้องสาว” คนนึงแล้ว
ขอบคุณพี่ชายที่แสนดี ที่ทำให้เรารู้ว่าต่อให้พย าย ามลืมพี่โดยการหันหน้าหนีจากพี่ไปชอบคนอื่น ก็ยัง
ไม่มีใครที่อยู่ด้วยแล้วเราสบายใจเท่านี้มาก่อนแต่ก็ไม่ได้ปิดใจนะ แค่รู้สึกว่า ไม่เคยมีใครใส่ใจเรื่องของ
เรามากเท่าเขาเท่านั้นเอง ไม่เคยทำให้เราโมโห ไม่เคยทำให้เรารอ…
ก็ได้แต่คิด…ว่าถ้าจะเจอใครสักคนในชีวิตที่เข้ามาทำให้เราลืมเขาได้…คนๆ นั้นจะเป็นคนแบบไหนนะ
เท่าที่รู้…ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสู้พี่ได้สักคน ขอบคุณนะคะ ที่ไม่หายไปไหน