9 วิธีฝ่าวิกฤต ใช้ชีวิตอย่ างเป็นสุข
วันเวลาเดินหน้าทุกวินาที นำพาทั้งสิ่งดีและไม่ดีเข้ามาในชีวิต และเป็นธรรมดาของคนทั่วไป เมื่อเกิดสิ่งดี ๆ ขึ้นในชีวิต
ย่อมดีใจ และเป็นสุขใจ แต่เมื่อไหร่ที่เกิดเรื่องไม่ดี ๆ หรือเรื่องไม่ดี ย่อมมีแต่ความทุกข์ กินก็ทุกข์ เดินก็ทุกข์ นั่งก็ทุกข์
นอนก็ทุกข์ เรียกว่า ทุกข์ในทุกอิริย าบถ
ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ย ากเช่นนี้อย่ าปล่อยให้มันจมอยู่กับเรานานเ พ ร า ะชีวิตเราจะยิ่งแย่ลงไปเรื่อย ๆ ตามวันเวลา
ที่ผ่านไป เ พ ร า ะฉะนั้น เราจะต้องรีบผ่านวิกฤตการณ์แย่ ๆ ไปสู่ความสุขให้เร็วที่สุด ด้วยวิธีง่าย ๆ ตามนี้
1 : เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต
บางครั้งหลายสิ่งหลายอย่ างที่เกิดขึ้นในชีวิต อาจทำให้เราเป็นทุกข์ได้ในบางขณะ และไม่มีอะไรในชีวิตที่จะเจ็บปวด
ไปกว่า การจมปลักอยู่กับสิ่งที่เราไม่ต้องการ แต่เชื่อเถอะว่า..สิ่งนั้นก็เข้ามาเพียงชั่วคราว แล้วก็ผ่านเลยไป ไม่อยู่กับ
เราจนชั่วชีวิตหรอกชีวิตของคนเราเปรียบเหมือนเข็มนาฬิกา ที่ต้องเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ไม่มีถอยหลัง ได้พบเจอผู้คน
ใหม่ ๆ สิ่งใหม่ ๆ และประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเส้นทางเพียงแค่เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่เข้ามาก็จะทำ
ให้เราเป็นสุขได้บ้าง
2 : ตั้งเป้าหมายในชีวิตอย่ างแน่วแน่
เ พ ร า ะชีวิตเป็นของเรา เมื่อมุ่งหวังสิ่งใด ต้องลงมือทำ เลือกทางเดินที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ใช่เหมาะกับคนอื่น ๆ
และอย่ ามัวเสียเวลาเดินผิดทาง ทุก ๆ เช้าขอให้ ถามตัวเองว่า อะไรคือสิ่งสำคัญจริง ๆ ในชีวิต แล้วใช้สติปัญญา
ความกล้าหาญ และ พละกำลัง ทุ่มเททำให้บรรลุผลท้ายที่สุด สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าเราพูดอะไร แต่อยู่ที่เราให้
เวลากับสิ่งใดหากเราต้องการทำสิ่งใดๆอย่ างจริงจังก็จงพย าย ามหาหนทางทำให้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
3 : ทำเรื่องที่สำคัญจริง ๆ
หาให้เจอว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต พย าย ามตัดเรื่องที่ไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุด เหลือไว้แต่เรื่องที่
สำคัญจริง ๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสียสมอง และเสียใจในภายหลังเ พ ร า ะคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น
รู้จักวางเรื่องที่สำคัญน้อยกว่าไว้ข้าง ๆ แล้วมุ่งหน้าทำเรื่องที่สำคัญมากกว่าเป็นลำดับแรก ๆ ดังนั้น เมื่อเรา
ตระหนักดีว่าสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน ก็จะสามารถจัดอันดับเรื่องที่ต้องทำก่อนหลังได้อย่ างสบาย ๆ
4 : มีที่พักใจ ไร้กังวล
หากมีเรื่องที่ทำให้ต้องเก็บมาคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า บอกได้เลยว่า ชีวิตนี้หาความสุขไม่เจอแน่ เ พ ร า ะความวิตกกังวล
ไม่ได้ทำให้ปัญหาหมดไปในวันพรุ่งนี้ หากแต่มันจะทำให้ความสุขสงบในวันนี้หมดไปเ พ ร า ะฉะนั้น จึงไม่ควรเก็บ
ทุกเรื่องมาคิดมากจนเกินเหตุข้อจำกัดใหญ่ที่สุด คือ สิ่งที่เราสร้างขึ้นมาในใจและสาเหตุใหญ่ที่สุดที่ทำให้เราไม่มี
ความสุขคือ ความเชื่อผิด ๆ ที่เราไม่ยอมปล่อยผ่านไป ดังนั้น ควรทำใจให้ปลอดโปร่ง หาวิธีพักใจด้วยการ
ออกกำลังกาย หรือทำสมาธิ เพื่อขจัดความกลัวออกจากใจ
5 : เชื่อมั่นที่จะเดินหน้า
แม้ว่าขณะนี้เราอาจจะยังไปไม่ถึงจุดหมายที่ต้องการ แต่เมื่อทบทวนดูให้ดี เราก็ไม่ได้อยู่ ณ จุดเดิมเช่นกัน ดังนั้น
ขอให้มีความเชื่อมั่นที่จะเดินหน้าต่อไป แต่ขอให้โฟกัสเรื่องที่ถูกต้อง และพย าย ามทำเต็มความสามารถอย่ า
หวั่นเกรงที่จะต้องเดินหน้าตามลำพัง ขอให้สนุกไปกับมัน ที่สำคัญอย่ าปล่อยให้การเพิกเฉย หรือการปฏิเสธ
ของคนอื่น ๆ ทำให้เราเดินออกนอกเส้นทางที่ตั้งใจไว้
6 : ยอมรับข้อผิดพลาด
การยอมรับข้อตำหนิ ข้อผิดพลาด คือการยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เราได้บทเรียนที่ดี และสามารถ
เดินหน้าต่อไปได้อย่ างผิดพลาดน้อยที่สุด หรืออาจจะไม่ผิดพลาดเลยโปรดระลึกไว้เสมอว่า ความจริงเป็นสิ่ง
ไม่สิ้นและความผิดพลาดไม่ได้ทำให้เจ็บปวดเท่ากับการปฏิเสธและกลบเกลื่อนความผิดซึ่งจะย้อนมาทำไม่ดี
กับเราอย่ างแสนสาหัส
7 : เลือกคบคนดี
ไ ม่ ทุ ก คนหรอกที่จะรู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่เราทำให้แก่เขา ดังนั้น ต้องดูว่าคนไหนที่เราควรใส่ใจ และคนไหนที่
เอาเปรียบเรา หากไปทุ่มเทเวลาให้กับความสัมพันธ์ที่ผิด จนละเลยความสัมพันธ์ที่ดี สุดท้าย เราเองน่ะแหละ
ที่จะต้องเป็นฝ่ายเสียใจเราจึงต้องรู้จักรักตัวเอง ด้วยการคบหากับกลุ่มคนดี ซึ่งจะช่วยให้เราเติบโตได้ดีที่สุด
ในอย่ างที่เราเป็น และคนดีจะช่วยให้เรารักทุกอย่ างที่เป็นตัวเรา ในขณะที่คนเลวจะทำให้ชีวิตเราตกต่ำลง
ไปเรื่อย ๆพระพุทธองค์ทรงสอนว่า การไม่คบคนพาลหรือคนชั่ว และการคบบัณฑิต เป็นมงคลแก่ชีวิต
8 : เรียนรู้ด้วยตัวเอง
มหาตมะ คานธี มหาบุรุษของโลก กล่าวไว้ว่า “จงใช้ชีวิตเสมือนหนึ่งว่า คุณต้องจากไปในวันพรุ่งนี้ จงเรียนรู้เสมือน
หนึ่งว่า คุณต้องมีชีวิตชั่วนิรันดร์”หากจะเปรียบไปแล้ว ชีวิตก็คล้ายดั่งหนังสือเล่มหนึ่ง คนที่ใส่ใจเรียนรู้อยู่อย่ าง
สม่ำเสมอ ชีวิตย่อมก้าวหน้า แต่หากอ่านเพียงไม่กี่หน้า ชีวิตจะก้าวหน้าได้อย่ างไรการศึกษาทุกรูปแบบคือการ
เรียนรู้ด้วยตนเองทั้งสิ้น เราจะเรียนรู้อะไรไม่ได้เลย หากไม่รู้สึกอย ากที่จะเรียนรู้ คนที่ใช้เวลาเพียรหาความรู้
ด้วยตัวเอง คือคนที่เรียนรู้อย่ างแท้จริง
9 : ทำฝันให้เป็นจริง
ทุกคนย่อมมีความฝัน และก็มีคนไม่น้อยที่สามารถทำความฝันของตนให้เป็นความจริงได้ ด้วยความมุ่งมั่น และ
เพียรพย าย ามดังนั้น ย ามที่รู้สึกเหนื่อยท้อแท้ ขอให้หยุดพักสักหน่อย แล้วค่อยเดินต่อไป อย่ าทิ้งความฝัน
เ พ ร า ะไม่แน่ว่า สักวันมันอาจจะเป็นความจริงขึ้นมา ถ้าเรามุ่งหน้าสู่ฝันอย่ างไม่ท้อถอย