จนแบบที่ 1 :: จนเงิน
มีเงินไม่พอใช้จ่าย รายได้ไม่พอสำหรับการใช้ชีวิตไม่มีเงินมากพอที่จะซัพพอร์ตครอบครัว
หรือ คนที่รักอาจเพราะ เกิดมาตุ้นทุนชีวิตต่ำ แต่ก็สามารถพัฒนาขึ้นได้
จนแบบที่ 2 :: จนเวลา
ไม่มีเวลาใช้ชีวิต ไม่มีเวลาทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการแบบที่ 2 นี้ อาจจะมีเงิน แต่ต้องแลกมาด้วยการทำงานอย่ างหนัก
บางคนมีเงินแต่ไม่มีเวลาใช้ บางคนมีเวลาแต่ไม่มีเงินใช้ซึ่งบางคนไม่มียิ่งกว่านั้น
คือ ไม่มีทั้งเงิน และ เวลาซึ่งส่วนใหญ่แล้วมุ่งเน้นไปโทษแบบที่ 3 นั่นคือ…
จนแบบที่3 :: จน โอกาส
ในใจก็คิดไปว่า… เราก็ขยันนะแต่ทำไมยังไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเลยสักทีไม่มีโอกาสดีๆ เข้าในชีวิต หรือ เราไม่มีโชค
แบบคนอื่นไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย หรือ เกิดมามีพร้อม เราอาจต้องเข้าใจก่อนว่า คนขยันทุกคนล้วนประสบความสำเร็จ
แต่.. แค่ขยันอย่ างเดียวมันยังไม่พอที่จะทำให้ประสบความสำเร็จมันยังมีปัจจัยอย่ างอื่น
นอกจากความขยันด้วยถ้าการทำงานหนักทำให้ประสบความสำเร็จ คนงานก่อสร้างที่ใช้แรงงานทำงานหนักกว่าใครๆ
คงรวย คงประสบความสำเร็จไปหมดแล้ว (ไม่ได้ดูถูกอาชีพนี้นะ) เพียงแต่อาชีพนี้โอกาสมีน้อยมาก
อาจเพราะมัวแต่ทำงาน จนมองไม่เห็นโอกาส หรือ เพราะไม่มีใครมองเห็น จึงไม่มีใครหยิบยื่นโอกาสให้ทำงานหนักอย่ างเดียวคงไม่พอ
เราต้องมองหาโอกาสให้ตัวเองด้วยหลายครั้งมีโอกาสดีๆ เข้ามา แต่เรามองไม่เห็น
ไม่ทันได้สังเกตหรือ เลือกที่จะปฎิเสธโอกาสนั้น แบบนี้ที่เค้าเรียกว่าจนแบบที่ 4
จนแบบที่ 4 :: จน ความคิด
มั่วแต่คิดดูถูกศักยภาพตัวเอง คิดลบ คิดในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์คิดแต่ในสิ่งที่ทำให้ตัวเองไม่ประสบความสำเร็จ
คิดว่าตัวเองคงทำไม่ได้ แล้วปล่อยให่โอกาสของตัวเองหลุดลอยไป จ น เงิ น – จ น เว ลา เจอโอกาสดีๆ เข้ามา
ยังสามารถมีทางเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองได้แต่ถ้า จ น วาม คิ ด รับรองชีวิตไม่มีทางเปลี่ยนแปลง
วันนี้ถ้าเราเจอคนดูถูกเรา เราชอบมั้ย ใช่… เราไม่ชอบ…!! แล้วทำไมเรามักดูถูกศักยภาพตัวเอง
ต่อให้คนเป็นร้อยเป็นพันบอกว่าเราทำได้แต่ถ้าเราบอกว่าทำไม่ได้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแต่ถ้าคนเป็นร้อยเป็นพัน
บอกว่าเราทำไม่ได้แต่เราเชื่อว่าเราทำได้ และ ลงมือทำไปเรื่อยๆอย่ างต่อเนื่อง
สักวันมันก็ประสบความสำเร็จให้เห็นเองเพราะไม่ว่าเราจะบอกว่าเราทำได้หรือไม่ได้เราก็คิดถูกเสมอเพราะ
สุดท้ายแล้วความสำเร็จของชีวิตเริ่มต้นที่ความคิดของเราทุกคนรู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวเอง อะไรที่ทำแล้วดีกับตัวเอง
แต่จะมีสักกี่คนที่ลงมือทำอย่ างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จผมเชื่อเช่นนี้… แล้วคุณล่ะเชื่อในตัวเองแบบไหน
ฝากให้คิด ถึงแม้ในวันนี้เราจะ ” จ น ฐาน ะ “ แต่จงอย่ า ” จ น ความคิด “ จงคิดแบบคนที่รวยความคิด
บางคนขยันทำงานหนัก แต่…ทำไมถึงไม่ประสบความสำเร็จซักที คิดไปก็รู้สึกท้อใจ สงสัยเขา มีบุญ มีวาสนามากกว่า
จึงทำให้เขาสำเร็จ แต่.. ที่จริงแล้วที่เรายังล้มเหลวอยู่อาจเพราะมันมีที่มาจาก 5 สาเหตุนี้
1 : จงเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้บ้าง อย่ าเอาแต่คิดจะเป็นผู้ได้อยู่ฝ่ายเดียว
ทางเดินของคุณจะยิ่งมายิ่งกว้างขวาง แบบนี้ยิ่งเสริมบุญวาสนา
2 : สิ่งของบางสิ่งนำความพอใจมาสู่คุณเพียงชั่วขณะ แต่มันเติมเต็มชีวิตคุณตลอดไปไม่ได้หรอก
ยอมอดได้ความสุขระยะสั้น เพื่อนำเงินไปลงทุนในระยะย าว
3 : ไม่มีใครได้ในสิ่งที่ต้องการ ทุกคนล้วนได้ในสิ่งที่คู่ควร ถ้าคุณทำตัวไม่คู่ควรกับสิ่งที่คุณต้องการ
ยังไงก็ไม่มีวันได้มันมา หรือ หากโชคดีได้มันมา ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเสียมันไป
4 : คนอื่นอาจลงแรงมากกว่าคุณ เหนื่อยกว่าคุณ ทำงานหนักมากกว่าคุณ แต่เป็นเพราะคุณไม่ได้เห็นตอนที่เขาทำงาน
5 : หากคุณไม่แก่งแย่งรอบกายคุณจะมากด้วยมิตรสหาย หากคุณมีกำลังจงช่วยคนอื่นที่ลำบากกว่า แบบนี้เรียกว่าสร้างบารมี