10 ภารกิจเรื่องเงิน ที่ควรทำก่อนอายุ 35 ปี
คำแนะนำสำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคน เพื่อความมั่นคงของตัวเองและครอบครัว
1 : ศึกษาสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ
ทั้งสิทธิที่ได้จากกองทุนประกันสังคม และสิทธิการรักษาพย าบาลจากการประกันกลุ่มที่บริษัทมีให้ ดูว่าเราได้รับ
การคุ้มครองครบถ้วนหรือยัง ถ้ามีส่วนใดที่ไม่มีไปก็ต้องดูเพิ่มเติม
2 : ทำประกันให้ครอบคลุม
อย่ ามัวแต่โฟกัสที่ “ประกันสุขภาพ” แล้วมองข้ามความสำคัญของ “ประกันอุบัติเหตุ” และ “ประกันชีวิต” เมื่อเรา
อายุน้อย “สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุด คือ ตัวเราเอง” ลองคิดว่าหากเกิดอุบัติเหตุจนทุพพลภาพ เราจะใช้ชีวิตที่เหลือ
อย่ างไร หรือหากเสียชีวิต ใครจะดูแลพ่อแม่และครอบครัวของเรา
3 : เพิ่มเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว เปิดให้ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสมทบเพิ่มได้ (สูงสุดไม่เกิน 15%
ของเงินเดือน) โดยนายจ้างไม่ต้องเพิ่มตาม บางคนอาจจะเกี่ยงงอนอย ากสมทบเท่านายจ้าง แต่นี่คือ “เงินออม”
ของตัวเราเอง ยิ่งออมมากก็ยิ่งมีความมั่นคงทางการเงินมาก เงินสมทบนี้นำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย
4 : ออมเพิ่มผ่านกองทุน LTF/RMF
เป็นช่องทางการออมและการลงทุนระยะย าว อายุเรายังน้อย การลงทุนในหุ้นผ่าน LTF/RMF ตั้งแต่อายุยังน้อย
จะช่วยให้เงินออมโตเร็ว และยังช่วยลดหย่อนภาษีได้ด้วย
5 : หาความรู้เรื่องการลงทุนติดตัว
บางคนเก็บเงินเก่งมาก แต่ “ลงทุน” ไม่เป็น เก็บได้เท่าไหร่ก็ฝากธนาคารอย่ างเดียว ดอกเบี้ยต่ำเตี้ย เงินออมโตช้ามาก
ควรหาความรู้เรื่องการลงทุน ทำให้เงินออมโตเร็วในระยะย าวสำหรับคนที่มีงานประจำและไม่มีเวลาแนะนำให้ออมเงิน
ผ่าน “กองทุนรวม” ยกให้มืออาชีพบริหารเงินแทนเราดีกว่าค่ะ
6 : เตรียมเก็บเงินก้อนสำหรับการซื้อของชิ้นใหญ่
เช่น บ้าน หรือ รถ อย่ างน้อย “เงินดาวน์” ควรเป็นเงินที่เราเก็บเอง เ พ ร า ะถ้ากู้เงินมาดาวน์ด้วย เราจะเป็นหนี้ซ้ำซ้อน
ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่อีกอัน คือ ค่าเล่าเรียนลูก ควรเตรียมเก็บไว้เลย
7 : คิดให้รอบคอบก่อนจะเรียนต่อปริญญาโท
อย่ าเรียนเพียงหวังใบปริญญา แต่ควรเรียนเพื่อต่อยอดความรู้สำหรับความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และเรียนเพื่อ
สร้างเครือข่ายเพื่อนใหม่ หากฐานะการเงินยังไม่มั่นคง ควรเลือกเรียนหลักสูตร part-time ที่ช่วยให้เราสามารถ
เรียนไปและทำงานไปได้
8 : อย่ าเอาอย่ างเพื่อน
เห็นเพื่อนที่ออฟฟิศซื้อจักรย านราคาแพงมาก็อย ากได้บ้าง หรือเห็นเพื่อนบ้านไปเที่ยวยุโรปทุกปีก็อย ากไปบ้าง
ให้เตือนตัวเองเสมอว่า ต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน และอย่ าลืมว่าเพื่อนบางคนมันก็ทำไปเ พ ร า ะอย ากอวด
แต่เบื้องหลังมันก็เป็นหนี้หัวโตเหมือนกัน
9 : ตกลงกับแฟนเรื่องเงินให้ชัดเจนตั้งแต่ “ก่อน” แต่งงาน
โดยธรรมชาติคู่สมรสส่วนมากจะมีรายได้หรือฐานะทางการเงินไม่เท่ากัน หากไม่ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วไปคาดหวัง
ว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเท่ากัน จะทำให้เกิดทะเลาะกันได้ เราจึงควรคุยกับแฟนให้ชัดเจนตั้งแต่ก่อน
แต่งงานว่า ใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไร ใครจะผ่อนบ้าน ใครจะผ่อนรถ แล้วควรจะมีเงินตรงกลางที่เป็น
ค่าใช้จ่ายร่วมกันของครอบครัว
10 : อย่ า “ทุ่ม” กับลูกคนแรกมากเกินไป
เป็นธรรมชาติของพ่อแม่ทุกคนที่จะ “เห่อ” ลูกคนแรก อย ากดูแลอย่ างดีที่สุด อย ากซื้อเสื้อผ้า ของเล่น และของใช้
ส่วนตัวอย่ างดีให้ลูก แม้จะตั้งใจมีลูกคนเดียว แต่อย่ าลืมว่าค่าใช้จ่ายของลูกยังจะตามมาอีกมหาศาลกว่าเค้า
จะเรียนจบมีงานทำและมีรายได้ของตัวเอง