1. ล งโ ท ษเมื่อลูกทำผิด
เชื่อว่ามีพ่อแม่หลาย ๆ ท่านคิดว่าการลงโทษคือวิธีที่
จะทำให้เด็ กจดจำและจะไม่ทำผิดซ้ำแบบเดิมอีก แต่
กลับตรงกันข้าม วิธีนี้จะทำให้เด็ กรู้สึกเสี ยใจ กลาย
เป็นเด็ กที่เก็บกด และกลั วความผิดพลาดจ นกลาย
เป็นคนขี้ระแวงได้ วิธีที่ถูกต้องที่สุดก็คือ การปลอบเขา
เมื่อลูกทำผิดพลาด อธิบายเหตุผลว่าทำไมสิ่งนี้คือสิ่ง
ที่ลูกทำผิด มันจะมีผลเสี ยอย่ างไร พร้อมทั้งแนะนำ
และช่วยกันหาวิธีคิดแก้ไขปัญหาให้กับลูกหรือใช้วิธี
ล งโท ษแบบนุ่มนวล เช่น การลงโทษแบบ time in
2. ใช้ถ้อยคำ รุ น แ ร ง ด่ าว่าลูก
การใช้ถ้อยคำที่ไม่ดีเพื่อว่ากล่าวตักเตือนเมื่อลูกเรานั้น
ทำผิด จริง ๆ แล้วไม่ควรใช้การด่ าว่า หรือใช้คำรุ น แ ร ง
ส่ อ เ สี ย ดเพื่อให้เด็ กกลั วหรือหลาบจำ เพราะการทำ
แบบนี้นอกจากจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีแล้ว ยังทำให้เด็ ก
ไม่มีความสำนึกผิด หนำซ้ำยังคิดจะทำครั้งต่อไปแบบที่
ไม่ทำให้โดนจับได้ เพื่อจะได้ไม่โดนด่ า แถมยังเกิดการ
เลียนแบบถ้อยคำ ห ย า บ ค า ย จากผู้ใหญ่อีกด้วย
3. ใช้ความ รุ น แ ร ง กับลูก
หมดยุคของการล งโ ทษโดยใช้ ไ ม้ เ รี ย ว ตีลูกเพื่อ
สร้างให้เป็นคนดีกันแล้วนะ เพราะการตีหรือใช้ความ
รุ น แ ร งกับเด็ กไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงหรือปรับ
นิสัยลูกให้เป็นไปตามที่พ่อแม่คาดหวังได้เลย แต่จะเป็น
การซ้ำเติมให้ลูกมีปมภายในใจหนักขึ้นไปอีก ความรุ น
แ ร งระหว่างพ่อแม่ท ะเ ล า ะ กัน หรือความ รุ น แ ร ง
ที่ทำต่อลูกล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ดี ที่ยิ่งทำให้ลูกมีอาการต่อ
ต้านหนักขึ้น และจะกลายเป็นภาพจำ ทำให้ลูกกลาย
เป็นเด็ กก้ าวร้ าวต่อไปได้ในอนาคต
4. เอาความคิดของตัวเองเป็นหลัก
และไม่ใจกว้างที่จะเข้าใจลูกตัวเอง
พ่อแม่อาจจะจดวันเดือนปีเกิดของลูกได้ รู้ว่าลูกชอบกิน
อะไรหรือไม่ชอบอะไร ฯลฯ แต่การรู้จักลูกในสิ่งเหล่านี้
ไม่ได้หมายความว่าคนเป็นพ่อแม่จะเข้าใจในสิ่งที่ลูกคิด
ได้เสมอไปนะ หากคุณยังต้องการให้ลูกต้องทำนู่นนั่นนี่
ในแบบที่พ่อแม่คิด โดยไม่ถามความสมัครใจหรือไม่ได้
สังเกตอาการ สีหน้า ความสุข ของลูกเลย
5. เปิดเผยความลับของลูกให้คนอื่น
แท้จริงแล้วพ่อแม่คือที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของลูก แต่เด็ ก
ในสังคมไทยปัจจุบัน กลับเลือกปรึกษาเพื่อนก่อนพ่อแม่
ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าบางเรื่องพ่อแม่เห็นว่าไม่ใช่เรื่อง
ใหญ่ หรือเป็นเรื่องที่มองข้ามความสำคัญของลูกไป หรือ
แก้ปัญหาไม่ตรงจุด จนลูกมองว่าพ่อแม่ช่วยอะไรไม่ได้
แต่สาเหตุหลักคือ เรื่องของความลับที่เด็ กไม่อย ากให้
คนจำนวนมากรู้ หากมีเรื่องสำคัญนั้นร้อยละ 80 ลูกมัก
จะเลือกบอกแม่ แต่แม่ก็อาจจะนำความลับนี้ไปปรึกษา
พ่อหรือคนอื่น ซึ่งการทำแบบนี้อาจทำให้เด็ กเกิดความ
รู้สึกไม่ไหววางใจหรือเชื่อใจที่จะบอกความลับตนเอง
6.เมินเฉยกับการทำดีของลูก หรือรู้สึกยินดีแบบผ่าน ๆ
ผู้ใหญ่มักมองเห็นความสำเร็จเล็ก ๆ ของลูกเป็นเพียง
เรื่องเล็กน้อย และให้ความยินดีแค่เพียงผ่านๆ แทนที่
จะมองว่าผลลัพธ์ในสิ่งที่ลูกทำได้ดีนั้นจะเป็นการต่อ
ยอดไปสู่ผลงานหรือความสำเร็จที่ดีในอนาคตของเขา
ได้หากได้รับการส่งเสริมที่ดีจากพ่อแม่ การเมินเฉยหรือ
การยินดีแค่เพียง ชั่ ว ขณะ อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่มั่นใจ
และไม่ภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้
7.ทำ ร้ า ยความมั่นใจของลูก
พ่อแม่หลายคนเผลอไปทำ ร้ า ย ความมั่นใจของลูก
โดยไม่รู้ตัว เข่น การพูดถึงข้อด้อยของลูกต่อผู้อื่นหรือ
ในที่สาธารณะ การบังคับให้ลูกทำอะไรโดยที่เขายังไม่
พร้อมหรือกล้า การทำแบบนี้ของพ่อแม่จะทำให้ลูกเรา
กลายเป็นคนข าดความมั่นใจและเป็นกาทำ ร้ า ย จิตใจ
ของลูกได้ด้วยนั่นเอง
8.มองข้ามการแสดงความคิดเห็นของลูก
ผู้ใหญ่มักแสดงความไม่พอใจต่อเด็ กที่ประพฤติตัว
ไม่ดี โดยอาจใช้การดุด่ าต่อว่า แต่เด็ กร้อยละ 90
ไม่สามารถแสดงอาการไม่พอใจในตัวผู้ใหญ่ออก
มาได้ และหากกล่าวว่าผู้ใหญ่ผิ ดก็ทำให้มองว่า
เป็นเด็ กไม่ดี ทำตัวไม่เหมาะสม ซึ่งในความเป็น
จริงแล้วพ่อแม่สามารถเป็นแบบอย่ างให้ลูกในการ
แสดงออกและเปิดใจให้กว้างต่อการฟังความคิดเห็น
จากทุกคนในครอบครัว ยอมรับความผิดถูกและช่วย
กันแก้ปัญหา เพื่อให้ลูกกล้าแสดงออก และรู้จักที่จะ
ยอมรับในสิ่งผิดอันจะเป็นรากฐานต่อการใช้ชีวิตใน
สังคมเมื่อเขาเติบโตขึ้น
9. นำเรื่องที่เคยทำผิดของลูกมากล่าวว่าซ้ำ ๆ
ผู้ใหญ่ส่วนมากเวลาดุเด็ กที่ทำผิด มักจะนำเรื่องของ
ลูกที่เคยทำผิดมาแล้วมากล่าวว่าซ้ำ ๆ เหมือนเป็นการ
ตอกย้ำซ้ำเติมลูกเข้าไปอีก และร้อยละ 50 ที่แสดงอา
การแบบนี้จะหยุดก็ต่อเมื่อเด็ กเกิดอาการเสี ยใจ การ
ทำแบบนี้ถือเป็นการกระทำที่ทำ ร้ า ยจิตใจลูกได้มาก
และจะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเ จ็ บ ใจ โ ก ร ธ จนทำ
ให้ลูกไม่คิดจะปรับปรุงตัวให้เป็นเด็กที่ดีขึ้น
10. อารมณ์เสี ยใส่ลูก
พ่อแม่ที่อารมณ์เสี ยหรือทะเลาะกัน บางครั้งก็มักจะ
อารมณ์เสี ยใส่ลูกโดยที่ไม่รู้ตัว หรือพ าลไปหาเรื่อง
ลูก ลงใส่ลูก การทำแบบนี้นอกจากจะเป็นการทำร้ า ย
จิตใจลูกโดยง่ายแล้ว ยังทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่มี
เหตุผลจนไม่คิดจะเชื่อถือได้