1 : โหยหา แต่สิ่งที่จ ะเข้ามาช่วยเติมเต็ม
หากมัวแต่มองหาสิ่งที่จะ เข้ามาช่วยเติมเต็มในตัวคุณได้ พนั นได้เลยว่าชีวิตนี้คง ไม่ได้พบกับ ความสุขที่แท้จริงอย่างแน่นอน
อีกทั้งคุณยังอาจถูกมองเหมือนพวกคนโหยหา ความรัก ที่ไม่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองซึ่งคงไม่มีใครอย ากอยู่กับคน
ที่เอาแต่ได้รับความรักจากคนอื่นแต่ไม่เคยให้อะไรใครกลับมาหรอกจริงไหม
2 : จมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ที่คอยจ้องแต่จะทำร้ าย
ขึ้นชื่อว่าความรู้สึกแย่คงไม่มีใครอย ากถูกผูกติดอยู่กับมันนานๆ ซึ่งในบางครั้งเราก็ไม่สามารถ ที่จะหลีกเลี่ยง หรือหลบหนีมันได้พ้น
เพราะเรื่องบางเรื่องก็มีอิทธิพลอย่างรุนแรงต่อจิตใจ มากมายเหลือเกินทางที่ดี ไม่ควรตอกย้ำตัวเองด้วยการจมอยู่
กับความรู้สึกเหล่านั้นนานๆและควรเริ่มแก้ไขปัญหาจากตัวเราเองก่อน เพราะสิ่งที่กำลังรู้สึกอยู่นี้ มักมีที่มาที่ไปจากความคิด
ของตัวเราทั้งนั้น แม้ว่าสาเหตุหลักจะเกิดขึ้นมาจากผู้อื่นก็ตาม
3 : พร่ำเพ้อให้ผู้อื่นรู้ ถึงความอ่อนแอข องตัวเอง
ความอ่อนแอมันก็ แค่ช่วงเวลาหนึ่ง ที่ต้องพบเจอไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่ด้วยกันกับเราได้ตลอดไป ดังนั้นเมื่อรู้สึกอ่อนแอก็ควรที่จะมี
ผู้รั บฟังอย่ างเข้าใจมากกว่าการบ่นระบายลงไปในโลกโซเชียลที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าจะมีสักกี่ คนที่หวังดี และจริงใจกับเราจริงๆ
ซึ่งก็ไม่แน่ว่าหนึ่งในนั้นอาจจะมีคนที่กำลังรอซ้ำเติมอยู่
4 : ไม่ยอมเปิดใจใ ห้กับอะไรใหม่ๆ
บางคนอาจเคยเจอเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกว่าโลกทั้งใบ ที่มีพังทลายลง ไปในพริบตาจนเกิดความหวาดระแวง ในการที่จะเริ่มต้นใหม่
เพราะกลัวตกอยู่ ในสถานการณ์แบบเดิมซ้ำๆ แต่การที่ไม่ยอมเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ ก็ถือเป็นการปิดกั้นและทำล ายโอกาสดีๆ
ที่กำลังก้าวเข้ามาในชีวิต ส่งผลให้ต้องพบเจอแต่ความจำเจที่มีอยู่ และไม่ได้พัฒนาไปไหนสักที
5 : ทำร้ ายร่างกายโดยการไม่ดูแลตัวเอง
เมื่อถึงคราวที่ต้องเผชิญหน้า กับความเจ็ บปว ดจากความผิดหวังหลายคนมักเลือกมองหาตัวช่วยในการเยียวยาหัวใจให้ดีขึ้น
ด้วยการดื่ม เพื่อให้ลืมเรื่องราวเหล่านั้นไป ซึ่งหารู้ไม่ว่า มั นก็เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือคุณได้แค่ในระยะเวลาสั้นๆ
แต่กลับส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยะย าว นอกจากนี้ยังอาจทำให้ถูกมองในแง่ลบจากสายตาของคนรอบข้าง ทางที่ดีควรหาวิธี
ที่สร้างสรรค์ในการรักษาตัวเองให้เหมาะกว่านี้ซึ่งจะช่วยทำให้ตัวคุณดูมีคุณค่าและรู้สึกรักตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
6 : ฟูมฟายให้กั บความรักห่ วยๆ จนไม่เป็นอันทำอะไร
เชื่อว่าหลายคนอาจจะหยิบยก ความรัก ให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิต ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะความรักเป็นสิ่งสวยงาม
แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้ มักมีหลายมุมให้มองเสมอเมื่อต้องพบกับด้านที่ ดีแล้วก็มักต้องพบกับอีกด้านที่แย่ด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้บางคนถึงกับสูญเสียความเป็นตัวเองไปในตอนที่ต้องเผชิญหน้า กับความผิดหวัง จนไร้สติในการใช้ชีวิต
7 : วิ่งตามสิ่ง ที่กำลังวิ่งหนีคุณออกไป
การวิ่งตามในสิ่งที่ กำลังวิ่งหนีคุณออกไปมีแต่ทำให้เสียเวลา และเหนื่อยไปแบบเปล่าประโยชน์ ซึ่งมันสามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจน
แล้วว่าของสิ่งนั้นไม่ใช่ของๆคุณตั้งแต่แรกเพราะถ้าหากมันเป็นของคุณอย่างแท้จริงคุณ จะต้องไม่รู้สึกเหนื่อยหรือใช้ความพย าย าม
ในการได้มามากขนาดนั้นอย่ามัวเสียเวลาไปกับเรื่อง ไม่เป็นเรื่องเหล่านี้อีกเลย
8 : ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากเกินไป
การที่คนๆ หนึ่งจะให้ความสำคัญกับคนอื่นบ้างไม่ว่าในฐานะอะไรก็ตามคือเรื่องปกติและเป็นพื้นฐานโดยทั่วไปของมนุษย์อย่า ง
เราแต่การให้ความสำคัญในระดับที่เรียกได้ว่ามากเกินจนละเลยถึงความรู้สึกของตัวเองก็คงไม่ใช่เรื่องที่สมควรสักเท่าไหร่
ยิ่งการให้ใจไปกับคนที่มองเห็นค่าของคุณแค่บางเวลายิ่งถือว่าเป็นการทำร้ ายตัวเองแบบไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
9 : โฟกัสแต่เรื่องที่สำคัญน้ อยกว่าเรื่องของอนาคต
บางคนอาจกำ ลังมองเห็นแค่สิ่งที่เจออยู่ในปัจจุบันจนหลงลืม ไปว่าวันพรุ่งนี้ก็คืออนาคต ส่งผลให้ละเลยต่อหน้า ที่ที่ต้องทำ
เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับ สิ่งที่กำลังเป็น แต่จงจำไว้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การเตรียมพร้อม และวางแผน อนาคตให้ดำเนิน
ไปบนเส้นทางที่ดี ดังนั้น เรื่องไหนที่ไม่สำคัญกับชีวิตมากนักก็หยุดคิดไปบ้างก็ได้
10 : ตัดพ้อน้อ ยใจในโชคชะตา
การพูดจาตัดพ้อ เพื่อเรียกร้องคว ามสนใจไม่เคยช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้จริงๆมิหนำซ้ำ ยังโดนสังคมและผู้คนรอบข้างมองว่า
เป็นคนขี้แพ้อีกด้วย เพราะการเกิดมาครั้งหนึ่งถ้าหากไม่เคยพบเจอกับอุปสรรคเลยก็คงไม่สามารถ เรียกว่าชีวิตได้
ทางที่ดีควรเอาเวลาในการตัดพ้อน้อยใจในโชคชะตา มาเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน ให้อนาคตมีความก้าวหน้าจะดีกว่า