Home ข้อคิดดำเนินชีวิต คนแบบนี้ห่างได้ให้ห่าง อย่าเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยจะดีที่สุด

คนแบบนี้ห่างได้ให้ห่าง อย่าเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยจะดีที่สุด

2 second read
0
1,514

ในปัจจุบันนี้ เรามีเพื่อนกันมากมาย ทั้งเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อนร่วมสถาบันเพื่อนที่ทำงาน

เพื่อนจากสมาคมต่างๆ รวมถึงเพื่อนในโลกออนไลน์ด้วย บางคนแต่งตัวดี ดูภูมิฐาน พูดจาดีแต่ถ้าได้ลองคบดูลึกๆ

แล้วถึงได้เห็นธาตุแท้ของแต่ละคนว่าเป็นยังไง ไอ้คนที่เรานึกว่าไว้ใจได้ พึ่งพาอาศัยได้กลับไม่เคยช่วยเหลือเราเลย

ซักครั้ง แถมบางทียังอาจเอามี ด ม า ทิ่มข้างหลังเรา ซะอีก แต่บางคนพูดจาไม่ดี หน้าตาไม่น่าคบ แต่งตัวก็ดูมอซอ

กลับเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเรา เป็นคนที่ไว้ใจได้ที่สุดซะงั้นและ 13 ข้อต่อไปนี้ เป็นบุคคลที่ไม่ควรคบ

ไม่ควรเอาไว้ใกล้ตัว ห่างได้เป็นห่าง อย่ าไปข้อเกี่ยวด้วย จะดีที่สุด

1 :ไม่มีความ “เสมอภาค” ในมิตรภาพ ไม่เห็นความสำคัญของอีกฝ่าย

คุณอาจสงสัยว่าหมายถึงบุคคลประเภทนี้ใดกัน บุคคลประเภทนี้ก็หมายถึงบุคคลที่ชอบทำอะไรที่ไม่เป็นธรรม ตัวอย่ าง

ก็เช่นเวลาใดที่บุคคลเหล่านี้มีเรื่องทุกข์ใจอย ากเข้าไปเล่าให้คุณฟังได้ตลอดเวลาแต่พอคุณมีเรื่องต้องการคนปรับทุกข์บ้าง

คุณกลับไม่สามารถไปหาคนคนนี้ได้เนื่องจากเขากลับไม่ได้รับฟัง หรือ เขาอาจเรียกร้องน้ำใจของคุณอยู่ฝ่ายเดียวเช่น

ช่วยงานให้เขาหรือให้คุณช่วยอะไรเขาจิปาถะแต่เมื่อถึงทีของคุณบ้างคุณกลับไม่ได้รับน้ำใจนั้นกลับคืนมาเรื่องนี้ดูเผินๆ

อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันมีความหมายว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้มองเห็นความสำคัญในตัวคุณมากที่คุณคิด

2 : เป็นนักกุเรื่อง ชีวิตไม่อยู่บนฐานความเป็นจริง

บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดเรื่องเท็จเป็นกิจจะลักษณะ ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองได้ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง

ต่อผู้อื่นไปแล้วฝ่ายตรงข้ามจะถูกคนในสังคมมองเช่นไร บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดจาบิดเบือนความจริง

จนบางครั้งคุณก็น่าจะรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง

3 : เป็นมิจจาชีพในรูปแบบคนรู้จัก

บุคคลประเภทนี้อาจเข้ามาทำความรู้จักกับคุณเ พ ร า ะเขาต้องการบางอย่ างจากคุณแบบไม่สุจริต เขาอาจเป็นมือขโมย

ในคราบของเพื่อน ไม่ว่าเป็นทรัพย์สินทางตัวหรือทางปัญหาหรือไม่ก็หลอกหาผลประโยชน์ด้วยวิธีแบบเดียวกับที่มิจฉาชีพ

เขาทำกัน สำหรับคนประเภทนี้แล้วเมื่อคุณต้องระวังตัวเมื่อเริ่มรู้ตัวว่ามีคนประเภทนี้เข้ามาในชีวิตทางที่ดีแนะนำ

ให้ตีตัวออกห่างไปยิ่งไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

4 : ยืมเงินแต่ไม่คืน

มีหลายคนแล้วที่ต้องแตกแยกกันเ พ ร า ะเรื่องเงิน เป็นเพื่อนกันย ามเดือดร้อนถ้าช่วยเหลือได้ก็สมควรที่จะช่วยเหลือกันค่ะ

แต่ในกรณีที่ถ้าเพื่อนคนไหนมายืมเงินเราบ่อยๆ แต่เวลาคืนกลับทำเหมือนไม่อย ากคืนและแกล้งทำเป็นลืมๆ

ผลัดวันประกันพรุ่ง เกิน 3 ครั้ง ก็โบกมือบ๊ายบาย ซาโยนาระ มั้ย?

5 : ไม่รู้จักขอบเขตของคำว่า ‘เพื่อน’

ถึงจะบอกว่าสนิทกันแค่ไหน ควรเว้นระยะ และเข้าใจคำว่า พื้นที่ส่วนตัวด้วยถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่ างไรว่าเท่าไหนถึง

เรียกว่าไม่ล่วงเกินขอบเขต เอาหลักง่ายๆไม่อย ากให้ใครทำกับเราแบบไหนก็อย่ าทำแบบนั้น แต่กับบางคนเขาก็ไม่รู้จริงๆ

ว่าสิ่งที่ทำน่ะมันเกินขอบเขต น้องๆ อาจจะพูดกับเพือนไปตรงๆ แต่ก็อย่ าใช้คำพูด กระทบจิตใจหรือถ้าคุยแล้วไม่รู้เรื่อง

เขายังทำแบบเดิมซ้ำๆ สถานะมายเฟรนด์ก็คงต้องลดเหลือแค่คนเคยรู้จักพอ

6 : พูดว่าตำหนิแต่คนอื่น

ไม่มีใครที่ไม่ถูกนินทา หรือถูกพูดลับหลังก็จริง ยิ่งเวลาชาวแกงค์รวมตัวกัน จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะสุมหัวกัน

เม้ามอยคนอื่น แต่สำหรับคนที่เจอทีไรก็ไม่มีเรื่องสร้างสรรค์อื่นๆ มาพูดมาคุยบ้างมีแต่เรื่องว่าคนอื่นล้วนๆ คนนั้นก็ไม่ดี

คนโน้นก็ไม่ดี ว่าแต่คนอื่น จ้องจับผิดแต่คนอื่นไปทั่ว มีอยู่คนเดียวที่ดีคือตัวเอง

7 : เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง รับฟังความต่างไม่ได้

ไม่รับฟังความคิดเห็นใคร บางครั้งสิ่งที่คนเราคิดอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปคนรอบข้างที่เขาเตือนก็ควรจะรับฟัง

แล้วเอามาไตร่ตรองดู ไม่ใช่ไม่ฟังใคร ไม่เปิดใจ ดีแต่จะให้คนรอบข้างฟังและทำตามอย่ างที่ตัวเองคิดเพียงอย่ างเดียว

คนที่เป็นเพื่อนกันก็ต้องรู้จักพูด พร้อมกับขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักฟังเพื่อนด้วยไม่ใช่เอาแต่ความคิด และตัวเองเป็นที่่

ตั้ง ใครเขาจะอย ากร่วมเคียงข้างไปกับคุณได้ทุกเวลา

8 : เพื่อนพาทำนิสัยไม่ดี

กิจก ร ร มห่ามๆ เชื่อว่าวัยรุ่นทุกคนก็คงอย ากลอง แต่ครั้นหากเจอเพื่อนที่ชวนทำแต่เรื่องไม่ดีๆ ตลอด อาทิ มั่วสุมอบายมุข

เล่นพนัน ไม่เคยจะชวนกันไปทำกิจก ร ร มอะไรสร้างสรรค์ แยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่ออกขั้นแรกก็เตือนเพื่อนหน่อย

ถ้ายังไม่ฟังก็ถอยออกมาดีที่สุด

9 : ให้ช่วยตลอด 24 เหมือนเป็นอีกอวัยวะในร่างเธอ

เป็นเพื่อนกันต้องช่วยเหลือกันในย ามเดือดร้อน ใช่ค่ะ เป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่หากเจอเพื่อนประเภทแบบว่าให้ช่วย

ทุกเรื่องช่วยแทบจะ 24 ชั่วโมง เรื่องเล็กๆ น่้อยๆ ที่ลงมือทำเองได้ก็ไม่ทำ แต่ให้เพื่อนช่วยพอไม่ช่วยก็มีอาการขุ่นเคือง

โน่นนี่นั่น อย่ าเสียเวลาเลยค่ะเจอคนแบบนี้ วิ่งออกมาเลยเถอะ

10 : สนใจแต่เฉพาะเรื่องตัวเอง มักจะโผล่มาเฉพาะเวลาที่ต้องการให้คนช่วยเสร็จแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ

คนประเภทนี้เอาคำว่า “เพื่อน” หรือความสัมพันธ์ต่างๆมาบังหน้าไว้เท่านั้นคุณสมบัติของคนเหล่านี้ ร้อยวันพันปีหาก

ไม่มีเรื่องอะไรที่ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ เขาจะไม่โผล่ตัวมาหาคุณเลยยกตัวอย่ างเล็กๆเช่น เขาจะ Line

จะ Facebook ทักคุณมาก็ต่อเมื่อเขากำลังมีเรื่องให้คุณช่วยเท่านั้น กลุ่มบุคคลนี้มักเป็นผู้เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียวซะด้วยสิ

และพอเขาใช้งานคุณเสร็จแล้วก็หายตัวเข้ากลีบเมฆไปอย่ างรวดเร็ว บุคคลเหล่านี้ขัดกับตำราเพื่อนที่ดีที่ได้

กล่าวไว้ว่าคนช่วยต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน คนประเภทนี้หากคุณสังเกตดีๆว่าเวลาคุณต้องการความช่วยเหลือ

ขึ้นมาบ้างบางครั้งเขาอาจจะไม่ปรากฏตัวเลยก็เป็นได้นะ

11 : ทำตัวเป็น “งูเห่า” เลี้ยงไม่เชื่อง

สมัยเด็กคุณคงเคยได้ยินนิทานก่อนนอนเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า” มาบ้างแล้วบางทีคุณไม่ได้โ ง่หรอกที่เมื่อเพิ่งรู้จักกัน

ระยะแรกคุณมองไม่ออกว่าคนรอบตัวคุณใครคือ “งูเห่า”ด้วยความที่คุณเป็นคนดีคุณก็เมตตาคนประเภทนี้ไปเรื่อยๆ

แต่คนประเภทนี้นอกจากเขาอาจจะไม่ได้ตอบแทนคุณด้วยการขอบคุณหือความรู้สึกที่ดีต่อคุณ เขายังไปฉ ก กั ดคุณ

มีความริษย าในดวงใจ จ้องจะทำไม่ดีต่อคุณเป็นผลตอบแทน

12 : ทำตัวเป็น “นกสองหัว” ปากอย่ างใจอย่ างหรือต่อหน้าอย่ างลับหลังอย่ าง

สำหรับบุคคลเหล่านี้แล้ว ต่อหน้าเขาคุณจะเปรียบเป็นเทพบุตรผู้ไร้ราคี เขาจะไม่มีวันเอาข้อเสียหรือสิ่งที่เขาไม่พอใจ

มาพูดให้คุณได้ฟังต่อหน้าเป็นแน่ แต่อย่ าได้เผลอเลยคนคนเดียวกันนี่เองลับหลังคุณเขาได้เอาคุณไปพูดไปนินทา

ไปพูดกระแนะกระแหนไปกุเรื่องเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง จนกลายเป็นอีกเรื่องที่คุณอาจไม่คิดมาก่อนก็ได้

13 : กอบโกยผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว จ้องเอารัดเอาเปรียบไม่มีที่สิ้นสุด

บุคคลประเภทนี้มักจะแอบแฝงมาในรูปแบบเพื่อนหรือคนสนิทต่างๆเข้ามาหาคุณ ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุผลที่เขา

เข้าหาคุณนั้นเพียงเพื่อจะมาเอาผลประโยชน์จากคุณเท่านั้นซึ่งอาจจะเป็นทรัพย์สินที่คุณมีอยู่อาจจะเป็นแรงกาย

หรือทรัพย์สินทางสติปัญญาของคุณเพื่อโอนเข้าทางประโยชน์ของเขามันเป็นเรื่องปกติมากที่คนเราทุกคนเกิดมาอย่ าง

“น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า”ความหมายคือคนเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน ย้ำอีกที “ซึ่งกันและกัน” แต่บุคคลนี้กลับใช้คตินี้ตีความ

ผิดไปหรือไม่ก็ตีความไม่ครบเขากลับเห็นแต่ประโยชน์ที่คุณจะสามารถให้เขาได้ ใช้เล่ห์กลเพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณ

สารพัดรูปแบบสำคัญแต่ตัวจะรับไม่คำนึงถึงการให้ โดยเบื้องลึกของจิตใจคนเหล่านี้บางคนไม่ได้คิดแม้แต่จะหาทาง

ตอบแทนคุณอย่ างใด

 

Load More Related Articles
Load More By Life
Load More In ข้อคิดดำเนินชีวิต
Comments are closed.

Check Also

ผู้ประเสริฐ ผู้ยอดเยี่ยม นี่แหละคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับลูกๆ

ชาย ผ้ า ถุ ง ของแม่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้ไม่ต้องปลุ … …