1.ให้ลูกกินนมแม่
มีคนเคยวิจัยไว้ว่า การให้ลูกกินนมแม่อย่ างน้อย 6 เดือน
ถึง 1 ปี นับเป็นหนึ่งในเคล็ดลับในการพัฒนา IQ และ EQ
ให้เด็ กอย่ างเป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพและคุณค่า
ทางโภชนาการ น้ำนมของแม่นั้นจะช่วยพัฒนาทางระบบ
ป ร ะส าทของเด็ ก และการใกล้ชิดระหว่างแม่กับลูกขณะ
ให้นม ยังช่วยทำให้เด็ กรู้สึกอบอุ่น และรับรู้ถึงความรัก
ความเอาใจใส่จากแม่ ช่วยเสริมสร้างทักษะทางอารมณ์
ให้แก่ลูกได้ด้วย
2.ให้กำลังใจลูก
การกระตุ้นลูกให้ฉลาด ไม่ใช่การให้เขาลงมือทำเพียงครั้งเดียว
แล้วจะประสบความสำเร็จได้เลย แต่เกิดจากการทำซ้ำบ่อย ๆ
อย่ างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นทักษะกระบวนการคิด เกิดเป็นการ
เรียนรู้และความฉลาด ดังนั้นเราควรพูดให้กำลังใจลูกเพื่อให้ลูก
มีกำลังใจ และรู้สึกดีที่จะเรียนรู้สิ่งนั่นต่อไป
3.เป็นแบบอย่ างที่ดีให้แก่ลูก
สิ่งที่สำคัญที่สุดและง่ายๆที่สุดก็คือ คุณแม่ต้องเป็นตัวอย่ าง
ที่ดีให้ลูกด้วย เพราะเด็ กจะเรียนรู้ได้อย่ างอัตโนมัติโดยไม่ต้อง
สอนเลย ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใด ๆ เช่น ถ้าแม่ชอบอ่ านหนังสือให้
ลูกฟังบ่อยๆ ลูกก็จะซึมซับนิสัยรักการอ่านเองไปโดยปริย าย
4.อ่านหนังสือกับลูกบ่อยๆ
ไม่ใช่เพียงแค่กระตุ้นให้ลูกอ่านหนังสือหรืออ่า นหนังสือให้ลูกฟัง
เพียงอย่ างเดียว มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการอ่านหนังสือพร้อมกัน
กับลูก และพย าย ามอธิบายจุดที่สำคัญที่น่าสนใจให้ลูกฟัง จะช่วย
เพิ่มทั้งความเข้าใจและการพัฒนาทางส ติปัญญา ทั้งยังช่วยเสริม
สร้างความรู้สึกอบอุ่นและความรักระหว่างกันและกันด้วย
5.ให้ความรักความอบอุ่นกับแก่ลูกเสมอ
เพราะเด็ กที่เติบโตมาด้วยความรัก และความใส่ใจจากพ่อแม่เสมอ
จะมีมีพัฒนาการที่ดีทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์
6.ฝึกให้ลูกรู้สึกขอบคุณ
ความรู้สึกสำนึกขอบคุณ (Gratitude) หมายถึง ความรู้สึกขอบคุณ
และสุขใจ เมื่อได้รับสิ่งต่างๆ หรือ การมองเห็นและซาบซึ้งกับแง่มุม
บางอย่ างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ หรือสิ่งใหญ่ๆก็ตาม เคยมีงาน
ไว้ว่า การหมั่นให้ลูกรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ จะสามารถช่วยให้ลูกมอง
โลกในแง่บวกมากขึ้น มีความกระตือรือร้น และรู้สึกมีความสุข โดย
การฝึกความรู้สึกขอบคุณ สามารถทำได้ง่ายๆ เช่น ให้ลูกลองเขียน
ลงในสมุดบันทึก ให้ลูกลองเอ่ยออกมาสักสองหรือสามสิ่งที่เขารู้สึก
ขอบคุณประจำวันก่อนนอนหรือก่อนกินมื้อเย็น เป็นต้น หากลูกของ
คุณเป็นเด็ กขี้สงสัยและถามพ่อแม่บ่อย ๆ นั่นถือเป็นสัญญาณที่ดี
เพราะแสดงว่าลูกเป็นคนช่างสังเกต และใฝ่รู้ หากลูกถามคำถาม
บ่อยๆขอให้คุณอย่ าเบื่ อหรือรำคาญ เพราะการถามตอบของเด็ ก
จะช่วยให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญด้วย
7.ดูแลอาหารการกิน ให้ถูกหลักโภชนาการ
อาหารแต่ละมื้อของลูกควรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบ
ถ้วน และเหมาะสมกับเด็ กวัยเจริญเติบโตด้วยเช่น เมนูปลาทะเล
ต่างๆที่มี DHA ซึ่งจะช่วยในการบำรุงสมองนั่นเอง
8.ปล่อยให้ลูกเล่นกับเพื่อน ๆ
การลองปล่อยให้ลูกได้ใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อแม่คอยดูแลอยู่ตลอด
จะช่วยให้เด็ กเกิดการเรียนรู้ในการเข้าสังคม แม้ว่าบางทีอาจะมี
การท ะ เ ล าะ หรือโดนเพื่องแ ก ล้ ง บ้าง แต่นี่คือวิธีการที่ดีที่ลูก
จะได้ลองแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
9.ทานข้าวพร้อมกันอย่ างพร้อมหน้าพร้อมตา
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ากิจกร รมง่าย ๆ อย่ างการกินมื้อค่ำด้วยกัน
อย่ างพร้อมหน้าพร้อมตาระหว่างพ่อแม่ลูก หรือภายในครอบ
ครัวคืออีกหนึ่งกิจกร รม ที่งานวิจัยพบว่า เด็ กส่วนใหญ่ชื่นชอบ
และสามารถช่วยบ่มเพาะความสุขและการเติบโตทางอารมณ์
ของลูกได้อย่ างอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการกินมื้อ
ค่ำที่ครอบครัวสนใจที่จะแลกเปลี่ยนเหตุการณ์ประจำวันของกัน
และกัน ถามสารทุกข์สุกดิบ และแสดงความรักความห่วงใยต่อกัน
10. เสริมสร้างกิจกรร มทางความทรงจำ
กิจกร รมทางความทรงจำ จะช่วยพัฒนาทั้งทักษะในการจำ
ของลูกรวมไปถึงทักษะในการใช้เหตุผลและภาษา ตลอดจน
การปะติดปะต่อเหตุการณ์และความเข้าใจสถานการณ์เฉพาะ
หน้าต่างๆ การให้ลูกเล่นกิจกรร มทางความทรงจำ เช่น ซูโดกุ
จึงนับเป็นอีกหนึ่งกิจกร รม ที่ช่วยเสริมสร้าง IQ และEQ ให้ลูก
ได้อย่ างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพนั่นเอง
11. คาดหวังความพย ายาม ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ
การคาดหวังความพย ายาม จะช่วยให้ลูกสนุกสนานกับการเรียน
และกิจกร รมที่เขากำลังทำได้ดีกว่า การคาดหวังความสมบูรณ์
แบบ มีงานวิจัยพบว่า พ่อแม่ที่มักคาดหวังความสมบูรณ์แบบจาก
ลูกมักทำให้ลูกเสี่ยงมีภาวะซึมเศร้า และวิตกกั งว ลในตอนโตได้
โดยไม่รู้ตัว การเลี้ยงลูกอยู่บนฐานของความพ ยาย ามจึงช่วยให้
ลูกเห็นถึงคุณค่าในตัวเองและสิ่งเขาทำ ได้อย่ างสมเหตุสมผล
12. พ่อแม่เรียนรู้ที่จะมีความสุข
นอกเหนือจากการพัฒนาผ่านทางทักษะ และกิจก รรมต่าง ๆ แล้ว
การเรียนรู้ที่จะมีความสุขในวัยเด็ กนั้น ยังขึ้นอยู่กับอารมณ์และพฤติ
กร รมของพ่อแม่ด้วย การที่พ่อแม่อารมณ์เสี ยให้ลูกเห็นบ่อย ๆ ก็
อาจบ่มเพาะความวิตกและปมในใจลูกได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น นอก
เหนือจากการฝึกให้ลูกพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์ต่างๆ การที่
พ่อแม่มีความสุข และอารมณ์ดีก่อน และเผื่อแผ่รังสีแห่งความสุข
ดังกล่าวต่อให้ลูก ยังนับเป็นอีกวิธีเลี้ยงลูกให้มีความสุขเช่นกัน
13.ส่งเสริมให้ลูกเล่นดนตรี
งานวิจัยหลายแห่งพบว่า การฝึกให้ลูกเล่นดนตรี หรือแม้แค่เพียง
หลงรักในเสียงดนตรี สามารถช่วยพัฒนาทักษะทาง IQ ของลูก
ได้อ ย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยเสริมสร้างทักษะการแสดง
ออกทางอารมณ์และปลดปล่อยความรู้สึกเศร้าและสุขสมในจิต
ใจอย่ างสร้างสรรค์