1 : ถ้าคุยกับคนในครอบครัวไม่รู้เรื่อง ญาติที่ไกลออกไปหน่อยที่มีความเป็นกลางจะช่วยไกล่เกลี่ยได้ดีมาก
จำไว้เสมอว่าเราอาจเป็นคนที่คิดผิดเองก็ได้ และทิฏฐิมานะไม่เคยช่วยให้อะไรดีขึ้น
2 : เป็นคนพา พ่อแม่ไปหาหมอทุกครั้ง แรกๆอาจได้รับการปฏิเสธ ไม่ให้ไปด้วย ให้พย าย ามแทรกซึมจนท่านชิน ที่มีเรา
ไปอำนวยความสะดวก ที่สุดแล้วท่านจะรู้สึกชิน กับความสบายนี้ และเปิดใจให้เรา เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา
3 : เกิดอะไรผิดพลาด อย่ ามัวแต่โทษตัวเองหรือปิดบังความจริงให้รีบแจ้งหมอแจ้งครอบครัว
และช่วยกันแก้ไขปัญหา ทุกข้อมูลสำคัญกับการรักษาทั้งสิ้น
4 : ดูแลพ่อแม่อย่ างลูกพึงดู ไม่ใช่อย่ างผู้รู้ นักวิชาการ หรือผู้ปกครอง อย่ าลืมว่า พ่อแม่ทุกคนต้องการความรัก ความอบอุ่น
และความเคารพจากลูก มากกว่าอะไรทั้งหมดถึงแม้บางท่าน อาจจะแสดงออกในทางตรงกันข้ามก็ตาม
5 : จัดหาทุกอย่ าง ที่พ่อแม่เคยชอบเคยใช้ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้แล้วก็ตาม เช่น เสื้อผ้าที่นานๆจะมีโอกาสใส่สักครั้งหนึ่ง
นอกจากท่านจะรู้สึกว่า เราเอาใจใส่แล้ว ท่านจะยังรู้สึกว่า ตัวเองมีคุณค่าไม่มีอะไรเสื่อมถอยจนด้อยค่า ใช้ของดีๆ สวยๆ
ไม่ได้แล้ว คุณค่าทางใจแบบนี้ประมาณค่าไม่ได้เลย
6 : อย่ ายัดเยียด สิ่งที่เราเห็นว่า เหมาะที่สุดกับพ่อแม่ โดยท่านไม่เต็มใจ ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่เลิศเหลือเกินในสายตาเรา
หรือ ชาวโลกก็ตามอย่ าบ่นว่า หาคนมาดูแลก็ไม่เอา ซื้อเตียงใหม่ให้ ก็ไม่ชอบ ทำห้องให้ใหม่ก็ไม่ยอมอยู่ หมอที่เก่งกว่าตั้งเยอะ
ก็ไม่ยอมเปลี่ยนขอให้ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เมื่อความไว้เนื้อเชื่อใจเกิดขึ้น ผู้ใหญ่จะรับความหวังดี จากเรา ด้วยความเต็มใจเอง
7 : ไม่มีใครอย ากเป็นคนป่วย อย ากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือ อย ากเป็นคนแก่ที่สูญเสียความเคารพตัวเอง และศักดิ์ศรี
ของความเป็นมนุษย์ข้อนี้ คนเป็นลูก มักจะมองข้ามมากที่สุด ไม่ว่าท่านจะป่วย หรือ แก่ขนาดไหนก็ตามท่านมีสิทธิเต็มที่
ที่จะได้รับการปฏิบัติต่อ ด้วยความเคารพ
8 : การเปลี่ยนบทบาท จากผู้ถูกดูแล มาเป็นผู้ดูแล ทั้งทางกาย ทางใจ ทางทุนทรัพย์เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่อาศัยเวลา
และ ความเข้มแข็งมหาศาล อย่ าโทษตัวเอง ถ้าพบว่า มันไม่ง่าย และ ท้อแท้ คิดถึงหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ แล้วจะพบว่า
หัวใจของลูกที่พร้อมจะทำทุกอย่ าง เพื่อตอบแทนท่าน ไม่ได้ยิ่งใหญ่น้อยไปกว่ากันเลย
9 : ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องรู้เวลา กิน นอน ขับถ่าย ความดัน ปริมาณอาหารและย าและการตอบสนองทั้งหมดต่อสิ่งเหล่านั้น
รวมทั้งเบอร์โรงพย าบาล หมอและ รถพยาบาล เพราะเหตุฉุกเฉิน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ข้อมูลยิ่งพร้อม การรักษาพย าบาลก็ยิ่งเป็นผลดี
10 : ไม่ว่าเราจะโตแค่ไหน มีความรู้เยอะเพียงใด อายุก็ยังห่างกับพ่อแม่เท่าเดิม อย่ าพย าย ามที่จะเปลี่ยนพฤติก รรมของท่าน
ถึงแม้จะเป็นพฤติก ร ร มที่ ไม่เป็นผลดีต่อโ ร คเลยก็ตาม เถียงกันไป เราจะเหนื่อยทั้งกาย และปวดทั้งใจให้ค่อยๆ แทรกซึมเข้าไป
ในชีวิตท่านอย่ างเนียนๆวันหนึ่งที่พ่อแม่เห็นด้วยกับตัวเราเองว่า ทำแบบนี้แล้วสบายตัวขึ้น ท่านจะยอมทำเอง
11 : คุยทิศทางการรักษา และการดูแล กับคนในครอบครัวให้ชัดเจน ก่อนคุยกับหมอเมื่อหมอเสนอวิธีการรักษาอะไร
อย่ ากลัวที่จะถาม หรือ ขอเวลาหมอหาข้อมูลเพิ่มเติม 2nd, 3rd Opinionสำคัญเสมอ อย่ าหลับหูหลับตา เชื่ออะไรที่ไม่เข้าใจ
และก่อนตัดสินใจอะไรสำคัญทุกครั้งอย่ าลืมหาข้อมูล ของแต่ละทิศทาง และผลข้างเคียง ประกอบการตัดสินใจด้วย
12 : หากจะจ้างคนดูแล เราต้องแน่ใจที่สุดว่า เรามีเวลาในการดูแล การทำงานของเขา อย่ างใกล้ชิดคนดูแล ไม่ได้รู้อะไร
มากไปกว่าเรา และไม่ได้มีใจรักพ่อแม่เรา อย่ างที่เรามีแน่นอน
13 : แบ่งหน้าที่กัน กับพี่น้อง หรือคนในครอบครัวให้ชัดเจน จะช่วยลดภาระทางกาย และทางใจลงได้มากอย่ างน้อยที่สุด
ก็ลดความตึงเครียด ในครอบครัว รวมทั้งลดการดูแลซ้ำซ้อน เช่น การให้ย าซ้ำ อันอาจเป็นอั น ต ร า ยได้