1. หยุดวงจรการสร้างหนี้
ในขณะที่เราที่ยังชำระหนี้เก่าไม่หมด เราก็ต้องหยุดการสร้างหนี้ใหม่
ด้วยมาตรการรัดเข็ มขั ดให้ตัวเอง ซึ่งเราสามารถศึกษาวิธีการลด ละ
เลิ ก การสร้างหนี้ได้ดังนี้ ตัดภาระรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ห้ ามยุ่งกับการ
กู้หนี้นอกระบบ หยุดการใช้บัตรเครดิต เลิ กใช้วิธีหมุนเงินเพื่อโปะยอด
หนี้ การปลดหนี้ให้ได้ผลจึงควรเลิ กใช้วิธีการหมุนเงินเพื่อโปะยอดหนี้
คงค้างเดิม แต่ควรจะเริ่มจากการลดค่าใช้จ่ายและเริ่มปรับโครงสร้างหนี้
ใหม่ด้วยการวางแผนการชำระหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. แยกประเภทหนี้ให้ถูกต้อง
โดยหนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มก็คือ หนี้ดีและหนี้เสี ย การปลดหนี้ด้วย
การแยกหนี้ดีและหนี้เสี ย จึงเป็นการจัดหมวดหมู่หนี้ไปพร้อม ๆ กับ
การเรียนรู้พ ฤ ติ กร รม การใช้เงินที่ก่อให้เกิดหนี้ตามมาได้ในทีเดียว
โดยเราจะต้องแยกให้ได้ว่า หนี้ที่มีอยู่หลายก้อนนั้นเป็นหนี้ที่เราสา
มารถสร้างรายได้กลับมาให้ในภายหลังได้หรือไม่ หรือเป็นหนี้ที่ไม่ได้
สร้างประโยชน์ตามมาเลย
3. ปรับแผนทางการเงินใหม่
วิธีที่จะช่วยทำให้เราสามารถปลดหนี้ได้เร็วขึ้นและยั่งยืนมากที่สุด
ก็คือ การเริ่มต้นปรับแผนทางการเงินใหม่ ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วย
ลดหนี้และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีด้วยแล้ว ยังเป็นพื้นฐานของการ
วางแผนทางการเงิน เพื่อให้ชีวิตเราได้บรรลุสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้
ในระยะย าวได้ด้วย เเละเราสามารถสร้างวินัยทางการออม เริ่มต้น
ด้วย 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
-ขั้นที่ 1 วางแผนรายรับ-รายจ่าย
สาเหตุที่ทำให้คนเราใช้จ่ายเกินตัว นั่นอาจเป็นเพราะมองไม่เห็นว่า
ในแต่ละเดือนนั้นเราหมดเงินไปกับสิ่งต่างๆ มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น
การเริ่มต้นปลดหนี้ด้วยการวางแผนรายรับ-รายจ่าย จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ที่จะช่วยทำให้มองเห็นภาพกว้างมากขึ้นว่าในแต่ละเดือนควรสร้าง
สมดุลให้กับรายรับและรายจ่ายให้เกิ ดขึ้นได้อย่างไร ด้วยการสร้าง
2 บัญชีหลักไว้สำหรับบันทึกค่าใช้จ่าย ดังนี้
บัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำวัน
บัญชี้นี้เป็นรูปแบบบัญชีที่ช่วยในการสำรวจตัวเองว่า การใช้เงินของเรา
ในแต่ละวันนั้นมันเกินงบที่ตั้งไว้แต่แรกหรือไม่ มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่
เสี ยไปแบบเปล่าประโยชน์บ้าง เช่น ค่ากาแฟแบรนด์ดัง ค่าขนมทาน
เล่นต่างๆ เป็นต้น ดังนั้น บัญชีประเภทนี้จึงเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ให้เห็นว่า
คุณควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายในแต่ละวันอย่ างไร ถึงจะทำให้
ลดค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
บัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน
บัญชีนี้เป็นบัญชีภาพรวมที่จะทำให้มองเห็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
ว่ามีสัดส่วนเป็นอย่ างไร โดยต้องทำการแบ่งหมวดหมู่การใช้จ่ายเงิน
ในแต่ละเดือนเอาไว้ว่า มีรายรับและรายจ่ายอะไรที่หมุนเวียนในเดือน
นั้นๆ บ้าง และควรลดสั ดส่วนการใช้จ่ายตรง ไหนถึงจะสามารถหักลบ
กลบกับหนี้ที่มีได้ทันกับเวลาที่กำหนด
ขั้นที่ 2 ตั้งเป้าหมายทางการเงิน
สำหรับคนที่ยังมีหนี้การตั้งเป้าหมายในครั้งนี้อาจจะเป็นการตั้งเป้า
การชำระหนี้ให้ครบโดยเร็ว ซึ่งอาจใช้การกำหนดเวลาช่วยด้วยก็ได้
เช่น มีหนี้อยู่ทั้งสิ้น 1 ล้านบาท ต้องการที่จะชำระให้หมดภายใน 2 ปี
การตั้งเป้าแบบนี้ก็จะช่วยทำให้เรามองเห็นว่า หากว่าต้องการใช้หนี้
จำนวนนี้ในระยะเวลา 2 ปี ในแต่ละเดือนควรจะเริ่มทำอะไรบ้าง ซึ่งเรา
อาจจะเริ่มวางแผนการเก็บเงินให้ได้เดือนละ 42,000 บาท ด้วยวิธี
ต่างๆ เช่น ฝากเงินออมทรัพย์ที่ให้ด อ กเบี้ ยสูง การหารายได้เสริม
ที่นอกเหนือไปจากเงินเดือน เป็นต้น
ขั้นที่ 3 รู้จักการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ
การลงทุนถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมาย
ในการปลดหนี้ได้เร็วขึ้นเช่นกัน โดยอาจจะแบ่งหนี้ที่สามารถชำระได้
ในระยะย าวออกมา แล้วลองคำนวณดูว่าการลงทุนแบบไหนที่เราจะ
สามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอจะชำระหนี้ก้อนนี้ได้บ้าง แต่ก็อย่ าลืมว่า
การลงทุมีความเสี่ ยง ดังนั้น ควรศึกษาหาข้อมูลดีๆก่อนลงทุนด้วย
4. เข้าไปคุยกับธนาคาร
เมื่อเป็นหนี้ก็อย่ ากลั วที่จะเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ดังนั้นแล้ว
การเลือกเข้าไปคุยกับธนาคารจึงถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อไปขอประ
นอมหนี้ และทำการตกลงกับทางธนาคารในการปลดหนี้ที่มีทั้งหมดดู
ใหม่ เช่น การขอปรับลด ด อ กเบี้ ยชั่ วคร าว การขอหยุดชำระหนี้ก่อน
ชั่ วคราว และวิธีอื่นๆ เพื่อเป็นการคืนสภาพคล่องทางการเงินให้ตัวเอง
และได้ตั้งหลักก่อน แต่อย่ างไรก็ตามคุณจะต้องหาวิธีที่จะปลดหนี้ให้
ได้จนกว่าจะสำเร็จ เพื่อหลี กเลี่ ยงการขึ้นโรง ขึ้นศ าลและการถูกฟ้อง
ที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลังนั่นเอง
5. รู้จักวิธีช่วยลดหนี้
แน่นอนว่าหนี้สินจะมาพร้อมกับด อ กเบี้ ยอน่นอน ที่ถ้าเราปล่อยไว้
เรื่อยๆ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ ซึ่งแนะนำให้วิธีการลดด อ กเบี้ ย
ด้วยการรีไฟแนนซ์ ที่เป็นวิธีการชำระเงินกู้เดิมด้วยเงินกู้ใหม่ และใช้
สินทรัพย์เดิมเป็นหลักประกัน โดยสามารถทำได้จากการขอกู้เงินจาก
สถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อนำไปปลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ อย่ างเช่น
คนมีบ้านอาจจะเลือกใช้ตัวช่วยลดหนี้อย่ างการรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งเป็น
วิธีการช่วยลดอัตรา ด อ กเบี้ ย เพิ่มระยะเวลาการกู้และจ่ายค่างวดใน
การผ่อนบ้านน้อยลงกว่าเดิม ทำให้มีเงินเหลือใช้จ่ายส่วนอื่น ๆที่จำเป็น
ได้มากขึ้น สามารถนำไปหมุนเวียนใช้จ่ายหรือหมุนเวียนในธุรกิจได้ต่อไป