1.อย่ าสร้างหนี้ ถ้าไม่จำเป็น
เพราะอุปสรรคสำคัญ ของการออมเงิน ก็คือหนี้สินนี่แหละ สาเหตุหลักเลย
การมีหนี้ ทำให้รายจ่ายในชีวิตประจำวัน เพิ่มมากขึ้น และทำให้เรา
เหลือเงินเก็บลดน้อยลง เช่น หากเราอย ากได้โทรศั พท์เครื่องใหม่
สัก 30,000 บาท โดยใช้วิธีผ่ อ น 0 % 10 เดือน แม้ยอ ด ชำ ร ะต่อเดือน
ดูไม่เยอะก็ตามที แต่ทำให้เงินออม ที่เราจะได้ต่อปีมันหายไปถึง
30,000 เชียวล่ะ ฉะนั้น ก่อนจะตัดสินใจ สร้างหนี้ ไตร่ตรองดูก่อนว่า
ระหว่างโทรศั พท์เครื่องกับเป้าหมาย เงินแสนของเรา อะไรสำคัญกว่า
เมื่อคิดได้แล้ว ก็จงทำมันต่อไป เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายยิ่งใหญ่
2.จงตั้งเป้าหมายอย่างจริงจัง เพื่อสร้างแร งบันดาลใจให้ตัวเอง
มันเป็นสิ่งที่เราต้องนึกถึง ไม่ว่าจะเริ่มทำอะไร เราควรตั้งคำถาม ตอบให้ชัดเจน
ก่อนเสมอว่าการจะเก็บเงิน 100,000 ให้ได้ภายใน 1 ปี เราจะเก็บไปทำไม
ทำไปเพื่ออะไร เช่นเก็บเพื่อด าวน์รถตอนปลายปี หรือเก็บเพื่อรวมเงินไปด าวน์บ้าน
พอเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว เราเองจะมีสิ่งที่เราตั้งตารอ
ทีนี้วินัย ความมุ่งมั่น มันจะมาเอง แต่สิ่งหนึ่ง ที่ไม่ควรมองข้ามคือความสุข
เราต่างก็เก็บเงิน เพื่อเป้าหมายที่จะทำให้ ตัวเองมีความสุข
เพราะงั้น ระหว่างทางก็ต้องเติมเต็มไปด้วยความสุขเสมอ การมีความตั้งใจ
มันเป็นสิ่งที่ดี ในทางกลับกัน ก็ไม่ควรกดดั นตัวเองเกินไปจนความสุขหายไป
วันนี้อาจจะเก็บได้น้อย แต่ปีต่อ ๆ ไป เมื่อได้รายรับเพิ่มขึ้น หนี้สิ นลดได้
เงินออมของเรา ก็จะเพิ่มเองนั่นแหละ ขอแค่มุ่งมั่นมานะ และทำอย่างสม่ำเสมอ
3.อดเปรี้ยว ไว้กินหวาน และให้ร างวัลตัวเองได้
เพียงลองเปลี่ยนรูปแบบการให้ร างวั ลตัวเองสักหน่อย หลังจากทำงานเหนื่อย ๆ
ด้วยการไปเที่ยว ซื้อกระเป๋าที่อย ากได้ เปลี่ยนมาเป็นสิ่งที่สร้างความสุข
ให้ชีวิตการทำงานของเราดีกว่า และเป็นกำลังใจ สำคัญที่ทำให้เราไปถึง
เป้าหมายการออมเงินได้อย่ างมั่นคง ในช่วงที่เก็บเงินนั้น เราไม่จำเป็นต้องตั ด
รางวัลส่วนนี้ทิ้งไป แต่ล ด ร าคารางวัลลงมา จากเสื้อผ้า ที่เคยซื้อเดือนละ
5 ชุด ให้เหลือ 2 ชุดงี้ หรือไม่ก็ล ด ความถี่ในการให้ร างวัลตัวเอง อย่างจากเดือน
ละครั้ง ก็เป็นสามเดือนครั้งงี้ ซึ่งแบบนี้ เราก็จะยังให้ร างวัลตัวเองได้เหมือนเดิม
ก็แต่ประหยัดเงินได้มากขึ้นเหมือนกันและไปถึงเป้าหมายได้ง่ายกว่าเดิมไงล่ะ
4.กระปุกห มู คือเพื่อนของเรา
ก็คงมีหลาย ๆ คน ที่นับเงินก็จะสนใจ แต่เงินที่เป็นธนบัตร
แบงก์ใหญ่ อย่างพวกแบงก์ร้อย แบงก์พัน เศษเหรียญ แบงก์ย่อย เท่าไหร่นั้น
ไม่ได้สนใจอะไรมากเลย แต่รู้ไหมว่า แม้แบงก์และเศษเหรียญ เหล่านี้มันมีมูลค่า
ไม่มากก็จริงนะ แต่ถ้ารวมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ได้นะ ฉะนั้น การมีกระปุกออมสิน
เพื่อหยอด มันก็ยังเป็นวิธีเก็บเงิน ที่คลาสสิกใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย
เลิกงานกลับมา ก็เอาเศษเหรียญ แบงก์ย่อยที่มี หยอดลงไป
พอนานๆ เข้า ไม่แน่นะตอนสิ้นปี จากสิบบาทยี่สิบบาท มันอาจกลายพัน
เป็นหมื่น และสักวันเงินออมของเรา จะครบแสนก็เป็นได้ ฉะนั้น อย่ามองข้าม
5.ยุคนี้ใคร ๆ ก็มีจ๊ อ บเสริมกันทั้งนั้น
ไม่จำเป็นต้อง จำกั ดความสามารถตัวเองไว้ กับรายได้ทางเดียวหรอก
ยุคนี้มันไปเร็ว เอื้อให้การหาร ายได้ทำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะผ่านช่องทาง
ออ น ไ ลน์ จะข ายของก็ไม่ต้องมีหน้าร้าน ลูกค้าทักมา ก็คอยตอบระหว่าง
พักหรือหลังเลิกงานได้ ทำอาหารไปข ายในออฟฟิศ เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์
ก็เป็นทางเลือกที่ดีอยู่เหมือนกัน ไม่ต้องมากังวลว่า เงินเดือนเริ่มต้นหมื่นห้า
จะพอให้เหลือออมไหม ทีนี้แหละเงินออมก็จะเพิ่ม และบรรลุเป้าหมายได้ไวกว่าเดิม
6.ไม่ประม า ท กับรายจ่ายประจำวัน
ถ้าเราชงกาแฟเอง ประหยัดได้เยอะเชียวแหละนะ หลายคนคงพบว่า
เสี ยเงินไปกับค่ากาแฟ ค่าอาหารมากมาย โดยที่เรา แทบไม่ได้เอะใจเลย
ดังนั้น คำนวนดูว่า หากเราซื้อกาแฟร้าน ข้างนอกวันละแก้ว วันๆ หนึ่งแก้วละ 100 บาท
ในเดือนหนึ่งก็ คูณ 30 เข้าไปสิ มันก็เท่ากับเราเสียเงิน ค่ากาแฟต่อเดือนถึง
3,000 เชียวนะ อาจจะไม่จำเป็นต้อง ถึงขั้นเลิ กซื้ อกาแฟดื่ มไปเลยก็ได้
แต่อย ากให้ลองปรับการใช้เงิน กำหนดตัวเองให้ซื้อร้ านนอกได้สัปดาห์
ละ 1-2 แก้ว ทีเหลือนั้นชงดื่ มเองที่บ้าน และจากนี้เราก็จะมีเงินออมเพิ่ม
ขอขอบคุณ Line
