1.ทำจิตใจให้แจ่มใส
จงจำเอาไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามในชีวิต เรามีเรื่องให้รู้สึกยินดีอยู่เสมอ
แม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเพียงการที่คุณยังมีลมหายใจอยู่ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์
เ ล วร้ า ย มากมายแค่ไหน จะต้องมีใครสักคนที่คุณรู้จักหรืออย่ างน้อยๆ ก็
ยังมีพ่อแม่ของคุณที่ยินดีจะยื่นมือเข้ามาช่วยคุณ ดังนั้น การคงความสดใส
ในชีวิตไว้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ไม่ควรฟุ่มเฟือยไปกับความบันเทิงเช่นกัน
คนเรามักมีเรื่องที่จะไม่มีทางยอมเลิก ดังนั้น ควรพิจารณาดูว่าอะไรที่สำคัญ
ต่อความสุขในชีวิต แล้วหาทาง รั ก ษ า สิ่งนั้นไว้ด้วยการใช้จ่ายที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
2.จัดลำดับความสำคัญ
เมื่อคุณตกงาน สิ่งแรกที่คุณควรทำ คือจับจ่ายอย่ างมีสติ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ใครๆ
ต่างรู้ดี แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้โดยง่าย ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะแก่การซื้อ
เสื้อผ้าใหม่ หรือออกไปช้อปปิ้ง แต่คุณคงรจำกั ดการใช้จ่ายของตัวเองลง
ให้เหลือแต่สิ่งที่จำเป็นที่สุดเท่านั้น เช่น ค่าอ า ห า ร ค่าเดินทาง ค่าเช่าบ้าน
ค่าน้ำ ค่าไฟ เหล่านี้นั่นเอง
3.ขอความช่วยเหลือคนอื่น
หากคุณมีเพื่อนหรือครอบครัวที่พอช่วยเหลือคุณได้ จงน้อมรับความช่วยเหลือนั้นไว้
แล้ววขอบคุณทุกคนซะ แต่ก็อย่ าหวังที่จะพึ่งพาคนอื่นเพียงอย่ างเดียวหล่ะ
จงตั้งปฏิญาณกับตัวเองว่า จะให้ความช่วยเหลือกับคนอื่นที่กำลังลำบากเช่นกัน
หากคุณผ่าน วิ ก ฤ ติครั้งนี้ไปได้แล้ว ทำให้ได้จริงตามที่ตั้งใจ หากคุณหมดหนทาง
จนต้องกลับไปขอเงินพ่อแม่ จงบันทึกเอาไว้ว่า พวกท่านช่วยเหลือคุณเป็นเงินเท่าใด
แล้วตั้งเป้าที่จะเก็บเงินมาคืนท่านในภายหลัง แม้จะต้องใช้เวลาสะสมเงินมาคืนเป็นปี
หรือแม้ว่าสุดท้ายแล้ว ท่านจะไม่ยอมรับเงินที่คุณนำมาคืนก็ตาม
4.เก็บเล็กผสมน้อย
ให้ความสำคัญกับเงินทุกบาททุกสตางค์ ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหน
การเอาตัวรอดในโลกที่คุณต้องพึ่งพาตัวเองนั้น จะต้องอาศัยความหลักแหลม
ลองฝึกทำ อ า ห า ร ให้ได้ปริมาณมากในราคาถูก เก็บขวดเก่าไปขาย
ซื้อของใช้ในบ้านที่จำเป็นไว้ เพื่อที่จะประหยัดได้ในระยะยาว หากคุณต้อง
ขับรถไปทำงาน ลองหาเพื่อนร่วมทางที่ติดรถไปด้วยกันได้
5.ทำงานให้หนักขึ้น
นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งคร่ำครวญถึงโชคชะตาชีวิตอัน โ ห ด ร้ า ยหรอกนะ
จงออกไปทำงานอะไรก็ตาม ที่คุณพอทำได้ อาจจะ 1 งาน 2 งาน หรือ 3 งาน
ทำงานให้หนักกว่าเดิม ทำให้เต็มกำลังที่มี แม้งานที่ทำอยู่จะไม่ได้เกี่ยวข้อง
กับสาขาที่จบมา มองหาโอกาสใหม่ ๆ เช่น งาน part time ที่จะช่วยทำให้
สถานการณ์ของคุณกลับมาดีขึ้นได้ หาทางใช้ทักษะที่คุณมีให้เป็นประโยชน์
หากคุณทำงานหนักมากพอ ไม่มีทางที่ความพย าย ามของคุณจะถูกมองข้าม
แล้วในที่สุดสถานการณ์จะดีขึ้นได้เอง
6.รู้ตัวว่าควรยอมแ พ้เมื่อใด
ข้อสุดท้ายนี้ จงสังเกตพัฒนาการในชีวิตของตัวเองอยู่เสมอ หากคุณได้ลอง
ทุกวิถีทางเพื่อทำให้มันดีขึ้นแล้ว ก็ต้องรู้ด้วยว่าเวลาไหนที่ควรจะถ อ ดใจ
หาทางออกเอาไว้ หากเกิดสถานการณ์ที่ เ ล ว ร้ า ย ที่สุด แม้ทางออกนั้น
จะเป็นการย้ายกลับไปอยู่กับพ่อแม่ จงรู้ลิมิตตัวเองว่าควรยอมยกธงขาวเมื่อใด
และอย่ าเสียใจที่ยอมแ พ้ เมื่อได้พย าย ามอย่ างเต็มที่แล้ว
ขอบคุณ ที่มา j o b s d b