Home ข้อคิดดำเนินชีวิต การลงมือทำไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ไม่มีคำว่าสายโดยเฉพ าะการเก็บออมเงิน

การลงมือทำไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ไม่มีคำว่าสายโดยเฉพ าะการเก็บออมเงิน

0 second read
0
1,349

ไม่มีคำว่าสาย สำหรับการทำเรื่องใดๆ ที่ดีกับชีวิตของเราโดยเฉพาะเรื่องการเก็บออมเงิน ถ้ามีใจรักและคิดที่จะลงมือทำแล้ว

นั้นไม่ว่าคุณจะเงินเดือนมากหรือเงินเดือนน้อยแค่ไหนก็เก็บเงินได้ทั้งนั้นทุกอย่ างต้องเริ่มที่ใจหัดให้นิสัยมีวินัยแล้วลงมือทำ

น้อยมากไม่ใช่ประเด็น การลงมือทำวันนี้เดี๋ยวนี้สิสำคัญขออย่ าคิดติดลบตัดกำลังใจตัวเองว่า แหม!! เงินเดือนก็น้อย หนี้ก็

เยอะ ทำงานทั้งเดือนแทบไม่พอใช้ถึงปลายเดือนแล้วจะเอาที่ไหนมาเก็บ เปลี่ยนความคิดเสียใหม่อย่ าปล่อยให้อุปสรรค

เหล่านี้มาเป็นตัวขัดขวางความมั่งคั่งของคุณไม่ต้องกลัวว่าเงินเดือนน้อย หนี้เยอะ เ พ ร า ะทุกปัญหามีทางออกเสมอ

มาดูวิธีการออมเงินที่ใครๆ ก็ทำได้แม้เงินเดือนน้อย หนี้เยอะกันดีกว่า

1 : เปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้เงิน

เมื่อรู้สถานะทางการเงินของตัวเองแล้วก็สำรวจพฤติกรร มของตัวเองด้วยเช่นกันว่ามีอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการเก็บเงินอย่ าง

เช่นชอบใช้เงินเกินตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้มีหนี้สิน มีนิสัยชอบสร้างหนี้ชอบใช้ของเกินฐานะและเป็นของที่ไม่จำเป็นซึ่งจะ

ต้องแก้ไขพฤติกรร มเหล่านี้โดยด่วน ตัดทอนการใช้จ่ายบางอย่ างออกไป

2 : ปรับตารางการเงินเสียใหม่

สำรวจรายรับรายจ่าย ในแต่ละเดือนเพื่อให้รู้สถานะทางการเงินที่แท้จริง จะได้วางแผนใช้เงินและออมเงินได้เหมาะกับตัวเอง

เ พ ร า ะมีหลายคนที่ออมเงิน ไม่ตรงกับสไตล์การใช้ชีวิต ทำให้เสียเงินไปกับเรื่องไม่จำเป็นและเป็นหนี้เพิ่มขึ้น เช่นบอกว่า

ให้ออมเงิน 10% ของเงินเดือนซึ่งถ้าหากคุณมีเงินเดือนประมาณ 1.5 หมื่นบาท แต่มีหนี้เกินกว่า 40% ของเงินเดือนคือ

6,000 บาท เท่ากับเหลือเงินใช้ 9,000 บาท ซึ่งที่เหลือนี้คุณต้องจ่ายให้กับค่าใช้จ่าย ประจำในแต่ละเดือนอย่ าง

ค่าบ้าน 3,000 บาท ค่าโทรศัพท์ 600 บาท ค่าน้ำค่าไฟ 800 บาท ส่งเงินให้ครอบครัว 2,000 บาทรวมๆ แล้วคุณ

เหลือเงินใช้ทั้งเดือนเพียง 2,600 บาทเท่านั้น

ซึ่งเมื่อต้องตัดเงินออม 10% ของเงินเดือนก่อนที่จะใช้จ่ายอย่ างอื่น ก็เท่ากับว่าเงินในแต่ละเดือน ของคุณติดลบ และ

ไม่พอใช้แน่นอนและอาจจะตามมาด้วยการเริ่มต้นเป็นหนี้และคุณภาพชีวิตในแต่ละวันก็ไม่ดีด้วยเ พ ร า ะต้องประหยัด

อย่ างถึงที่สุด ดังนั้นตรวจสอบสถานะทางการเงินของตัวเองก่อนที่จะเริ่มออมเงินเพื่อจะได้หาวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับ

ตัวเอง ค่อยขยับปรับเปลี่ยนแล้วออมไม่ถึง 10% ในตอนแรก เมื่อปรับตัวได้ ลดค่าใช้จ่ายตรงอื่นแล้วจึงค่อยเพิ่ม

ปริมาณไปเรื่อยๆ

3 : เริ่มเก็บเงินจากจุดเล็กๆ

ช่วงเริ่มต้นที่เงินเดือนไม่มากและ ยังมีหนี้สินล้นพ้นตัว อาจจะต้องเริ่มเก็บเงินจากสิ่งเล็กๆ ก่อน เช่น เงินเหรียญที่เหลือจาก

ค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน หยอดใส่กระปุกออมสินเอาไว้ในทุกๆ วัน หรือเก็บเศษของเงินเดือนในแต่ละเดือน เช่น เงินเดือน

15,650 บาท ให้เก็บเอาไว้ 650 บาท เป็นต้น เป็นการเริ่มต้นออมเงินอย่ างง่ายๆ ที่ไม่ทำให้คุณต้อง ลำบากมากนัก

4 : จัดการหนี้สินอย่ างเป็นระบบ

อุปสรรคที่สำคัญอย่ างหนึ่ง ของความมั่งคั่งก็คือหนี้สิน จึงต้องจัดการกับปัญหาหนี้สินให้เป็นระบบก่อน กั ด ฟั น ใช้หนี้

จำนวนน้อยๆก่อน จะได้ลดภาระหนี้สินในเดือนต่อๆ ไปให้ลดน้อยลง เริ่มจากเมื่อได้เงินก้อนใหญ่อย่างโบนัส หรือเงิน

จากการทำงานพิเศษให้นำมาปิดหนี้สินที่มียอดน้อยๆ ก่อน ส่วนหนี้ที่มียอดสูงๆ ก็จ่ายเพียงขั้นต่ำไปก่อนเพื่อประคองตัว

จากนั้นเมื่อหนี้สินก้อนเล็กๆ หมดไป ก็จะทำให้เหลือเงิน ในแต่ละเดือนเยอะขึ้นและค่อยทยอยจ่ายหนี้ก้อนใหญ่ต่อไป

5 : ประหยัดให้มากขึ้น

จากการประหยัด ค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น ประหยัดน้ำ เพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าน้ำค่าไฟประจำ

เดือนใช้โทรศัพท์แบบเติมเงิน แทนการใช้รายเดือน และใช้เท่าที่จำเป็นซื้อกับข้าวมาทำเองและทำอาหารไปกินที่ทำงาน

อร่อยแถมยังได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อีกด้วย เลือกซื้ อของลดร าค าแต่ต้องพิจารณาดูแล้วว่าเป็นของที่จำเป็น

ต้องใช้จริงๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้ อของเข้าบ้านได้อีกเพียบ

6 : แบ่งเงินใช้ให้พอดีเป็นวันๆ

เช่น วันละ 350 บาท อย่ าพกเงินติดตัวทีละเยอะๆ แต่ละวันหยิบเงินมาใช้ แค่จำนวนพอดี เพื่อบังคับให้ใช้เงินเท่าที่จำเป็น

ในจำนวนเงินที่มีอยู่ หลายคนเวลา เข้าร้านสะดวกซื้อเ พ ร า ะตั้งใจซื้ อ ของแค่อย่ างเดียวแต่เมื่อเข้าไปในร้านก็อดไม่ได้

ที่จะหยิบของชิ้นอื่นๆ เพิ่ม ดังนั้นหยิบเงินไปแค่พอซื้ อของที่ต้องการก็พอ

7 : หารายได้เพิ่ม

ถ้ารายได้น้อยไม่ค่อยพอ กับค่าใช้จ่าย ต้องหารายได้เสริมเพื่อให้มีเงินมากขึ้น โดยอาจจะเริ่มจากงานเสริมพาร์ตไทม์ช่วงเย็น

หลังเลิกงาน หรือช่วงเสาร์-อาทิตย์หากมีความรู้พิเศษเฉพาะทางก็สามารถรับงานฟรีแลนซ์มาทำได้ เพื่อให้มีเงินเพียงพอกับ

ค่าใช้จ่าย เสริมสภาพคล่องในแต่ละเดือนให้มากขึ้น

8 : ตั้งเป้าเงินออม

สัญญากับตัวเองไว้ ว่าภายใน 1 ปีจะต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้มีแรงจูงใจในการเก็บเงินโดยอาจจะทำเป็นสมุดจด

บันทึกเพื่อให้เห็นพัฒนาการของจำนวนเงินเก็บในแต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์เพิ่มมากขึ้นแค่ไหนและต้องเก็บเงินอีก

เท่าไหร่จึงจะถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ทำไปเรื่อยๆ ก็จะติดนิสัยรักการออมได้ในที่สุด

Load More Related Articles
Load More By Life
Load More In ข้อคิดดำเนินชีวิต
Comments are closed.

Check Also

ผู้ประเสริฐ ผู้ยอดเยี่ยม นี่แหละคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับลูกๆ

ชาย ผ้ า ถุ ง ของแม่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้ไม่ต้องปลุ … …