Home ข้อคิดดำเนินชีวิต ถ้าอย ากให้ลูกช่วยเหลือตนเองเป็นจงให้ลูกกล้าลองลงมือปฏิบัติเอง

ถ้าอย ากให้ลูกช่วยเหลือตนเองเป็นจงให้ลูกกล้าลองลงมือปฏิบัติเอง

0 second read
0
1,308

อย ากเลี้ยงลูกให้เก่ง และได้ดี พ่อแม่ต้องขี้เกียจ 3 อย่ าง

พ่อแม่ส่วนใหญ่เคยผ่านความลำบากมาก่อน จึงไม่อย ากให้ลูกต้องพบเจอกับความลำบากเหมือนตัวเองเจอมา จึงพย าย าม

เลี้ยงลูกให้ได้รับความสบายมากที่สุดอย ากได้อะไรก็หาให้หมด จนทำให้ลูกรู้สึกว่าไม่ต้องพ ย าย า มอะไรก็ได้ทุกอย่ างที่

ต้องการมาแล้วซึ่งการเลี้ยงลูกแบบนี้จะส่งผลในระยะย าวและกลายเป็นปัญหาให้ลูกเองเมื่อเขาโตขึ้นเขาจะไม่สามารถ

ดูแลตัวเองได้ กลายเป็น “โ ร ค ไม่รู้จักความลำบาก” ดังนั้นหากพ่อแม่รักลูกจริงๆ ต้องขี้เกียจใน 3 เรื่องนี้

1 : ขี้เกียจช่วยลูกทำการบ้าน

คุณแม่ท่านหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองว่า.. เธอไม่เคยสอนหรือช่วยทำการบ้านให้ลูกของเธอเลย แม่จะบอกลูกแค่ว่า

ให้ทำการบ้านเวลาไหน ควรทำเวลาไหน แล้วก็ไล่ให้ลูกไปทำ พอทำเสร็จก็ค่อยบอกแม่ และเธอก็จะไม่ตรวจสอบว่าลูกทำ

ถูกต้องหรือไม่ เ พ ร า ะการตรวจสอบนั้นมันเป็นหน้าที่ของลูก หรือให้รู้ว่าถูกผิดจากที่โรงเรียน คุณแม่แค่เซ็นชื่อให้เท่านั้น

เองช่วงแรกๆลูกของเธอก็แสดงอาการไม่พอใจ และพูดว่า “ทำไมแม่ถึงขี้เกียจแบบนี้… แม่คนอื่นเขาช่วยตรวจการบ้านให้

ลูกกันทั้งนั้น “เธอจึงตอบลูกไปว่า “ที่แม่ไม่ตรวจการบ้านลูก ไม่ใช่เ พ ร า ะแม่ขี้เกียจหรอกนะ แต่ลูกลองคิดดูสิ !! ถ้าแม่

ตรวจให้ แล้วลูกจะรู้ ได้ไงว่า ตัวเองทำผิดตรงไหน แล้วตอนสอบเวลาลูกทำผิด จะรู้ไหมว่าผิดตรงไหน ลูกต้องฝึกตรวจ

ความถูกต้อง ด้วยตัวเอง เรียนรู้ด้วย ตัวเอง เ พ ร า ะในห้องสอบไม่มีใครช่วยลูกตรวจได้ “จำไว้นะลูกว่า…ตอนลูกอยู่ใน

โรงเรียน ลูกจะได้ รับ บท เรียน ก่อน แล้วถึงได้ ทำข้อสอบ แต่สำหรับในโลกความจริง…ลูกจะต้องเจอบททดสอบก่อน

ถึงจะได้บทเรียน!!การที่เธอขี้เกียจสอนการบ้าน หรือช่วยลูกทำการบ้าน ทำให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเองได้มากที่สุดลูกจะได้

รู้จักพึ่งพาตัวเองก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเสมอ หากคิดไม่ออกหรือทำไม่ได้ ค่อยมาขอคำแนะนำจากแม่ได้

ผลปรากฎว่า : สำหรับพ่อแม่ที่มีนิสัยขี้เกียจตีกรอบความคิดให้ลูก แต่ปล่อยให้ลูกคิดเองอย่ างอิสระ หรือทำทุกอ ย่ าง

ด้วยการตัดสินใจของตัวเองได้อย่ างอิสระแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจยังให้ความสนใจลูกและคอยดูอยู่ห่างๆจะทำให้ลูสามารถ

เผชิญกับปัญหาได้ดี เขาจะมีภูมิคุ้มกัน มีปีกที่แข็งแรงพอ และอยู่ได้ด้วยตัวเอง แม้วันหนึ่งคุณจะไม่ได้อยู่ปกป้องเขา

แล้วก็ตาม

2 : ขี้เกียจขยับมือ สอนให้ลูกเรียนรู้จักพึ่งพาตนเอง

พ่อแม่ต้องขี้เกียจตามเก็บกวาดให้ลูกทุกอย่ างควรปล่อยให้เขารู้จักพึ่งพาตัวเองบ้างบางสิ่งที่ลูกสามารถทำเองได้ไม่จำเป็น

ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยทุกครั้งไป เช่น ห้องนอนลูกที่ดูไม่เป็นระเบียบ แค่เตือนให้เขารู้ตัวว่าต้องทำ แต่ไม่ต้องไปทำให้ลูกเรา

ควรจะเน้นไปที่การสอนให้ลูกดูแลความสะอาดบริเวณพื้นที่ส่วนรวมของบ้าน เช่น ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหารและ

เมื่อลูกเห็นว่าพื้นที่อื่นในบ้านสะอาด เขาจะรู้สึกว่า เขาต้องทำความสะอาดห้องนอนตัวเองให้สะอาดเหมือนกัน

ผลปรากฎว่า : เมื่อพ่อแม่ขี้เกียจช่วยเหลือลูกในบางเรื่อง ส่งผลให้ลูกฝึกทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้น และเป็นการฝึกนิสัย

พึ่งพาตัวเอง มีความรับผิดชอบต่อสิ่งรอบตัว และจะทำให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมากขึ้น เมื่อเขาโตไปจะกลายเป็น

คนที่สามารถรับผิดชอบได้ดี รู้จักหน้าที่ของตัวเอง

3 : ขี้เกียจบ่น ให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง

ในหลายครอบครัว คนเป็นพ่อเป็นแม่ มักจะตั้งความหวังไปที่ลูกมากจนเกินไปจนทำให้ลูกอึดอัดและกดดันกลายเป็นไม่สนใจ

และไม่อย ากฟังสิ่งที่เราจะพูด แต่สำหรับครอบครัวนี้ เขากลับใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ในการชวนลูกมาเล่นเกมและ

ไม่ต้องทำการบ้านโดยคุณแม่จะถามว่า ” ลูกกะจะเล่นเกมถึงกี่โมง…? “ลูกตอบว่า… ” ขอเล่นอีก 30 นาที “แม่ตอบกลับไป

ว่า… ” โอเค ต้อง รั ก ษ า คำพูดนะ “เมื่อถึงเวลา 30 นาที แม่เดินกลับมาดู และยังเห็นลูกเล่นเกมอยู่ คุณแม่ก็รู้สึกไม่พอใจ

แต่ยังสงบอารมณ์ได้และพูดกับลูกอย่ างใจเย็นว่า ” ปกติลูกเป็นคนรักษาคำพูดไม่ใช่หรอ…? “เมื่อลูกได้ฟังคำพูดของแม่

ก็เริ่มรู้สึดผิดต่อสิ่งที่ทำ และเดินไปปิดสวิทช์ และ รีบไปทำการบ้านทันที…!!นี่เป็นสาเหตุมาจาก ” การเป็นคนน่าเชื่อถือ

“ ของคุณแม่ท่านนี้เ พ ร า ะเวลาคุณแม่รับปากอะไรกับลูกไว้ เธอก็จะทำตามนั้นได้เป๊ะๆไม่เคยผิดคำพูดกับลูก เช่น จะพา

ลูกไปเที่ยว จะซื้อของเล่นให้ เธอก็ทำตามคำพูดได้ทุกครั้งมันแสดงให้เห็นว่า คุณแม่ท่านนี้เป็นคนที่ให้วคมาสำคัญกับ

การ รั ก ษ า คำพูดเป็นอย่ างมาก เมื่อรับปากอะไรไว้ ก็ต้องทำให้ได้ และสอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเอง

แล้วคำพูดก็เลยดูศักดิ์สิทธิ์

ผลปรากฎว่า : พ่อแม่ที่ไม่บ่นเรื่อนเปื่อย แต่ใช้วิธีปลูกฝังจิตสำนึกให้ลูกแทน ใช้เหตุผลในการคุยกับลูกมากกว่าอารมณ์สอน

ให้ลูกรู้จัก รั ก ษ า คำพูดของตัวเอง และทำตามที่พูดไว้อย่ างเคร่งครัด ทำให้ลูกให้ความสำคัญกับคำพูดมาก โดยที่เราไม่

ต้องไปบ่นให้เขามากมาย เขาสามารถสำนึกและคิดได้เองถ้าอย ากให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติ

ถ้าอย ากให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็น ให้ฝึกถามเพื่อให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็นถ้าอย ากให้ลูกมีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จัก

รั ก ษ า คำพูดถ้าอย ากให้ลูกพูดเ พ ร า ะ และ มีมารย าท ต้องทำให้ลูกเห็นทุกวัน

บางคนมักจะรักลูกแบบผิดๆ ไม่อย ากให้ลูกต้องลำบาก จึงไม่ยอมให้ลูกได้ลองทำอะไรด้วยตัวเอง จนลูกกลายเป็นคนที่ทำ

อะไรเองไม่เป็น ลูกมีหน้าที่เรียนก็เรียนอย่ างเดียว แต่ในชีวิตจริง ความรู้ในตำราอย่ างเดียวก็ใช้ไม่ได้ ต้องอาศัยประสบ

การณ์ชีวิตในการเอาตัวรอดด้วยไม่ว่าคุณจะรวยแค่ไหน มีเงินเหลือมากพอที่จะทำให้ลูกสุขสบายไปทั้งชีวิต แต่ถ้าไม่

สอนให้เขาเติบโตได้เองอย่ างเข็มแข็ง เขาก็ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง เ พ ร า ะฉะนั้น..จงสอนให้เขารู้จักความ

ลำบาก และเรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง และ ต่อสังคมให้ได้

Load More Related Articles
Load More By Life
Load More In ข้อคิดดำเนินชีวิต
Comments are closed.

Check Also

ผู้ประเสริฐ ผู้ยอดเยี่ยม นี่แหละคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับลูกๆ

ชาย ผ้ า ถุ ง ของแม่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้ไม่ต้องปลุ … …