บางช่วงเวลาที่เราเขยิบเข้าใกล้ความเศร้าซึมหากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้บางคนผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปแล้ว
บางคนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้ ขออนุญาตส่งกำลังใจและฝากสำรวจตัวเองเพื่อผ่อนปรน และใจดีกับตัวเอง ในช่วง
เวลาที่เราอาจกดดันตัวเองมากเกินไป สิ่งที่เป็นตัวจุดชนวนความเศร้าซึม คือ ความรู้สึกแย่กับตัวเอง เมื่อเกิดความรู้สึกเช่นนี้
ขึ้น ต้องระวังมิให้ดำดิ่งลงไป หรือคิดวนอยู่กับมันเนิ่นนานนักอาจใช้วิธีการพาตัวเองออกจากความคิดวนเวียนในเรื่องใดเรื่อง
หนึ่งไม่ว่าเรื่องงาน ความรัก ครอบครัว หรือสังคมให้เวลาตัวเองได้ผ่อนคลายและวางเรื่องนั้นลงบ้าง อนุญาตให้ตัวเองได้นั่ง
เฉยๆ เดินเล่นสบายๆ ฟังเพลง อ่านหนังสือพบปะมิตรสหาย หรือทำกิจกรรมที่อย ากทำ กินขนมที่อย ากกิน แล้วค่อยกลับไป
ลุยกับสิ่งจริงจังนั้นต่อ เ พ ร า ะถ้าลุยตลอดเวลาเราอาจพังก่อนเวลาอันควร ความทุ่มเทอย่ างหนักมีข้อเสียของมันเช่นกัน
เมื่อใส่แรงลงไปเยอะ เรามักคาดหวังเยอะตามไปด้วยถ้าผลยังไม่เป็นดังหวัง บ่อยครั้งกลับเพิ่มแรงกดดันกลับมาที่ตัวเอง
ทำให้รู้สึกแย่ที่ยังไปไม่ถึงไหนเสียที นิสัย 5 สิ่งต่อไปนี้ที่ต้องตรวจสอบตัวเองว่า “เยอะไปไหม”
1 : ทำเพื่อคนอื่นมากเกินไป
เวลารู้สึกแย่กับตัวเอง เรามักพ ย า ย ามทำเต็มที่ที่สุด เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเราไม่ได้แย่ จึงเป็นช่วงเวลาที่ปฏิเสธไม่เป็นตอบรับ
และเอาใจคนอื่นไปทั่ว เพื่อให้เขารู้สึกดีกับเรา ซึ่งการเอาอกเอาใจทุกคนนั้น เสี่ยงต่อความเหนื่อยล้าอ่อนแอในใจตัวเองยิ่งถ้า
มี ใคร เอา เปรียบ จากความใจดีของเรา ก็ยิ่งทำให้เจ็บปวดมากขึ้นไปอีก ลองสังเกตตัวเองว่ากำลังพย าย ามเอาใจคนอื่นจน
มากเกิน เพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือเปล่า อาจต้องพูดคำว่า “ไม่” บ้าง แล้วเราจะค่อยๆ เข้าใจว่าเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจเรา
ไม่ได้คาดหวังว่า เราจะต้องพยักหน้าตลอดเวลาขนาดนั้น
2 : อาวรณ์กับอดีต
การหวนกลับไปคิดว่า “ตอนนั้นฉันน่าจะทำแบบนั้นแบบนี้” ทำให้เราวนเวียนอยู่กับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ ชีวิตเป็นส่วนผสมของสิ่งที่
ตัดสินใจได้ถูกกับตัดสินใจผิด ไม่มีใครตัดสินใจถูกตลอดเวลา เ พ ร า ะผิดจึงไม่ทำอีก ทุกคนมีเรื่องที่อย ากแก้ไขแต่แก้ไม่ได้
สิ่งสำคัญคือเราไม่ได้ทำผิดทั้งหมด ลองถามตัวเองดูว่า “อะไรบ้างในอดีตที่เราทำได้ดีแล้ว” จะพบว่ามีสิ่งที่ทำและเลือกได้ดี
จำนวนไม่น้อย รู้สึกดีกับอดีตมากขึ้น เก็บบทเรียน (โดยไม่ต้องโทษตัวเอง)เพื่อทำอนาคตให้ดี ยังมีพรุ่งนี้รออยู่ ทุกคนล้วนมี
โอกาสตกลงไปในพายุแห่งความรู้สึกแย่กับตัวเองด้วยกันทั้งนั้นช่วงเวลาที่อยู่ในพายุย่อมไม่ง่ายที่จะเดินออกมา กระนั้น
การมองเห็นองค์ประกอบที่ก่อพายุอารมณ์ขึ้นอาจทำให้เราพอจะจัดการกับมันได้บ้าง โดยเฉพาะคนที่พายุยังเพิ่งเริ่มก่อตัว
เราอาจผิดพลาด อาจยังทำได้ไม่ดีแต่นั่นเป็นธรรมดาของมนุษย์ ต้องลองตรวจสอบเป้าหมายที่ตั้งไว้กับตัวเองว่า ไม่คาดคั้น
กับตัวเองเกินไปใช่ไหมความรู้สึกผิดแต่ละครั้งหนักหน่วงเกินไปหรือเปล่า
3 : รู้สึกผิด
ทุกคนทำผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น แต่คนที่อยู่ในภาวะเศร้าซึมจะเคลื่อนออกจากความรู้สึกผิดได้ย ากกว่า หากเริ่มมองเห็นวังวน
ของการโทษตัวเองซ้ำๆ รู้สึกผิดวนเวียน ต้องระวัง.. เ พ ร า ะจะนำไปสู่การโทษตัวเองว่า “ สมควรแล้วที่เป็นแบบนี้ ” ความรู้สึก
เช่นนี้คือ “ความรู้สึกผิดที่ไม่มีประโยชน์” ลองแยกความผิดที่แก้ไขไม่ได้เ พ ร า ะผ่านไปแล้วออกไปให้ชัด ๆ ให้อภัยตัวเองแล้ว
ลงมือทำสิ่งใหม่ การให้อภัยตัวเองเป็นเรื่องที่ต้องฝึกให้ชำนาญ เ พ ร า ะชีวิตนี้เรายังทำผิดพลาดอีกหลายหน และตัวเราเองก็
คู่ควรต่อการให้อภัยไม่น้อยไปกว่า คนที่เราอภัยและใจดีต่อเขาบางคนให้อภัยทุกคนในโลก ยกเว้นตัวเอง ต้องฝึกใจดีกับ
ตัวเองมากขึ้น
4 : ระแวงว่าคนอื่นจะมองว่าเราแย่
เวลารู้สึกแย่กับตัวเอง บ่อยครั้งเราเผลอคิดว่า คนอื่นมองเราแย่เหมือนที่เรารู้สึก เช่น คิดว่าเราอ่อนแอ เราห่วย ต่าง ๆ นานา
ความรู้สึกเช่นนี้ อาจทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่ลง เ พ ร า ะ เราจะรู้สึกไม่ปลอดภัย สิ่งสำคัญคือ ต้องมองเห็นตัวเองว่ากำลัง
ตัดสินคนอื่นด้วยความรู้สึกของตัวเองอยู่หรือเปล่า อาจแก้ไขได้ ด้วยการหาเพื่อนที่ไว้ใจแล้วบอกเล่าความรู้สึกให้ฟังรวมถึง
ถามหาข้อดีหรือจุดแข็งของเรา เพื่อจะได้รู้ว่า เพื่อนไม่ได้รู้สึกกับเราในเชิงลบอย่ างที่เราคิด ตรงกันข้าม…เพื่อนยังมองเห็น
คุณสมบัติที่ดีหลายอย่ างในตัวเราด้วยซ้ำ นอกจากกระชับสัมพันธ์แล้วยังได้เพิ่มพลังให้ตัวเองด้วย
5 : ติดความสมบูรณ์แบบ
ความคาดหวังที่สูงและเป็นอุดมคติ ไม่ว่าจะเรื่องความรัก การงานความสำเร็จหรือสังคมก็แล้วแต่อาจก่อความเครียดขึ้นในใจ
เ พ ร า ะฝันสมบูรณ์แบบนั้น มักต้องเผชิญกับความผิดหวังหากตั้งเป้าสวยงามไว้ ก็อาจต้องเหลือพื้นที่ให้ตัวเองด้วยว่า ผู้คน
ความสัมพันธ์ การงาน ความฝันอาจไม่ได้เป็นอย่ างที่เราคิด 100% สิ่งที่ช่วยได้คือ การมีทัศนะที่ดีต่อความล้มเหลวมองเห็น
บทเรียนที่ได้รับจากเวลาผิดหวัง และมองเห็นภาพกว้างว่า ชีวิตยังมีอย่ างอื่นอีก นอกจากความฝันอันสมบูรณ์แบบของเรา