เป็นอีกหนึ่งบทความที่น่าอ่านมากเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งบทความที่ให้ข้อคิดมากมายในการใช้ชีวิต ประจำวันการทำมาหากิน
เปลี่ยบเทียบ ว่าการที่เราเป็นลูกน้อง กับเจ้าของ ธุระกิจของตัวเองนั้นอะไรดีกว่ากัน และ สองอย่ างนี้แต่งต่างกันอย่ างไร
เราลองไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
แม่ค้าขายปลาทู
ใครเดินผ่านยิ้มเหม็นคาวทั้งปลาทูทั้งคนขายหาเกียรติหาศักดิ์ศรีทางสังคมไม่ค่อยได้ ขายปลาทูใครจะสนใจ!แต่รู้มั้ย ??
ขายปลาทูเป็น?เจ้าของกิจการมีวันขายดีมีวันขายไม่ดีจะวันไหนก็ช่างยิ้มเหอะที่แน่ๆ มีวันร่ำรวยแน่นอน
พนักงานบริษัท
แต่งตัวสวยหอมตั้งแต่หัวจรดเท้ารู้มั้ย?? สิ้นเดือนมาจ่ายค่าเครื่องสำอางที่เซ็นต์เค้าใว้เท่าไร??ไหนจะค่าอีออน ยิ้มอีกเพียบ!
แม่ค้าขายปลาทูตื่นจากเตียงไปตลาดไปสั่งงานลูกน้องพนักงานบริษัทที่แต่งตัวสวยๆ ตื่นออกจากบ้านไปรับคำสั่งคนอื่น!!
แม่ค้าขายปลาทูไปดาวน์รถกระบะใว้ส่งของให้ลูกค้าเกิดรายได้พนักงานคนสวยดาวน์รถเก๋งในฝันใว้ประดับฐานะทางสังคม
แม่ค้าขายปลาทูเอากำไรผ่อนรถกระบะ 5 ปีผ่านไปผ่อนรถหมดได้ทั้งกำไรที่เป็นเงินกำไรที่เป็นรถ
พนักงานคนสวยเอาเงินเดือนมาผ่อนรถเงินเดือนมาจากค่าแรง+ot 5 ปีผ่านไปได้รถเก่าๆ คันนึงกับเงินในบัญชีไม่กี่พันบาท
แม่ค้าขายปลาทูลื่นล้มหัวแตกนอนโรงบาลกดโทรศัพท์สั่งงานลูกน้องหัวแตกเงินยังเข้ากระเป๋า
พนักงานคนสวยลื่นล้มเหมือนกัน นอนโรงบาลประกันสังคมจ่ายแต่!!?ยิ้มค่าบัตรเครดิตค่าเครื่องสำอางที่ผ่อนใว้กูเจ็บกูก็
ต้องจ่ายรายได้หยุดเมื่อทำงานไม่ได้!!!
ผมนี่นะไม่ได้มีอคติอะไรกับมนุษย์เงินเดือนคุณก็มีศักดิ์ศรีมีความเป็นคนเท่าๆ กับทุกๆ คนผมจะสื่อสารว่าเลิก!! หยุด!!
พอกันที!!ไอ้การออกจากบ้านไปทำงานที่คุณไม่ชอบ ทำให้คนอื่นรวย
ขายปลาทูไร้เกียรติ ได้เงินเดือนละ 5 แสนเป็นพนักงานแต่งตัวสวยได้เงินเดือน 15,000 บาทจ่ายหนี้บัตรจ่ายทุกอย่ าง
บางเดือนติดลบ!!!ผมเลือกแล้ว คุณเลือกอะไร????เชื่อเถอะว่าทำในสิ่งที่เรารัก ทำในสิ่งที่เราชอบ เราจะมีความสุข
และอยู่กับมันได้นาน